นายกฯ ดันหลักนิติธรรมวาระแห่งชาติ ปฏิรูปกม. ลดช่องโหว่เอื้อ “ธุรกิจสีเทา”

วันนี้ (8 ต.ค. 68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “หลักนิติธรรม: วาระแห่งชาติเพื่อความสามารถในการแข่งขันของไทย” โดยย้ำว่า หลักนิติธรรมไม่ใช่เพียงเรื่องของกฎหมาย แต่คือ “วัฒนธรรมแห่งความเป็นธรรม” ที่ต้องปลูกฝังในทุกระดับของสังคม เพื่อสร้างระบบที่ทุกคนเชื่อมั่นและยึดมั่นในความถูกต้อง เขาเปรียบ “ความยุติธรรม” เสมือน “เสาเข็มของสังคม” ที่ต้องมั่นคงและเท่าเทียมสำหรับทุกคน โดยระบุว่า “ไม่มีประเทศใดแข่งขันได้อย่างยั่งยืน หากขาดหลักนิติธรรมที่มั่นคง”
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ ทั้งด้านความเหลื่อมล้ำ เสถียรภาพทางการเมือง และระบบราชการที่ขาดความเป็นธรรม ซึ่งล้วนมีรากเหง้ามาจากความอ่อนแอของระบบกฎหมาย จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับยึดมั่นในหลักนิติธรรม บังคับใช้กฎหมายอย่างเที่ยงธรรม และไม่ยอมให้กระบวนการยุติธรรมถูกใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
พร้อมกันนี้ นายอนุทินย้ำว่า รัฐบาลได้กำหนดให้การใช้กฎหมายในทางมิชอบหรือการละเว้นหน้าที่ ถือเป็น “ความผิดวินัยร้ายแรง” โดยเฉพาะในกรณีเกี่ยวกับยาเสพติด บ่อนการพนัน อาชญากรรมข้ามชาติ ภัยไซเบอร์ และการหลอกลวงประชาชน เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนและสังคม พร้อมกล่าวว่า “หลักนิติธรรมคือ ต้นทุนของความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ”
นายกรัฐมนตรีเปิดเผยด้วยว่า รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์หลัก 3 ด้าน เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ได้แก่
1. วาง Roadmap ด้านหลักนิติธรรม เพื่อยกระดับมาตรฐานกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมให้เป็นสากล
2. ปฏิรูปกฎหมายและปลดล็อกคอร์รัปชัน เพื่อขจัดอุปสรรคและลดช่องโหว่ทางกฎหมายที่เอื้อต่อ “ธุรกิจสีเทา”
3. ยกระดับความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมของประชาชน ผ่านระบบ Open Government และเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้สังคมตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนของการใช้งบประมาณและนโยบายภาครัฐ
นายอนุทินสรุปปาฐกถาว่า การฟื้นฟูหลักนิติธรรมเป็นภารกิจระยะยาวที่ต้องเริ่มต้นวันนี้ เพื่อสร้าง “จุดเปลี่ยนผ่านของประเทศ” และวางรากฐานให้รัฐบาลชุดต่อไปสานต่อได้อย่างยั่งยืน พร้อมขอบคุณ WJP, OECD และทุกภาคส่วนที่ร่วมสนับสนุนการยกระดับ “หลักนิติธรรม” ให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อสร้างสังคมไทยที่มั่นคง โปร่งใส และแข่งขันได้ในระดับโลก.
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
