เปิดสูตรเชื่อมอนาคต ไทย–เวียดนาม วางยุทธศาสตร์ร่วมท่ามกลางโลกผันผวน

รัฐบาลไทย–เวียดนามเปิดฉากหุ้นส่วนรอบด้าน ยกระดับความร่วมมือรอบใหม่ในอาเซียน
ก้าวแรกของการเยือนอย่างเป็นทางการ
วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม พร้อมคณะรัฐมนตรี โดยมี นายเหวียน วัน หุ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวเวียดนาม นายเหวียน แหม่ง เกื่อง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายฝั่ม เหวียต หุ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย ให้การต้อนรับอย่างเป็นทางการ
การเยือนครั้งนี้เป็นการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งแรกในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเป็นการเยือนระดับผู้นำรัฐบาลไทยในรอบ 10 ปี ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการวางรากฐานความร่วมมือในทุกมิติระหว่างไทยกับเวียดนาม ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วและความท้าทายทางเศรษฐกิจร่วมกัน
เปิดเวทีภาคเอกชน ฟังเสียงธุรกิจไทยในเวียดนาม
ภารกิจแรกของนายกรัฐมนตรีคือการพบหารือกับภาคเอกชนไทยในเวียดนาม ที่โรงแรม Melia Hanoi โดยมีผู้บริหารหอการค้าและอุตสาหกรรมไทยในเวียดนาม (ThaiCham) เข้าร่วม โดยปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 140 บริษัท อาทิ SCG, CP, ThaiBev, Central Retail, KASIKORNBANK, WHA และ EXIM Bank
นางสาวแพทองธาร แสดงความชื่นชมบทบาทของ ThaiCham ในฐานะกลไกประสานความร่วมมือไทย–เวียดนาม และขอบคุณนักธุรกิจไทยที่เป็นกำลังสำคัญในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ พร้อมรับฟังข้อเสนอเกี่ยวกับโอกาสและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดนโยบายส่งเสริมการลงทุนและความร่วมมือเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค
เดินหน้าดันไทยเป็นศูนย์กลางการบิน–เทคโนโลยี
จากนั้น นายกรัฐมนตรีพบหารือกับผู้บริหารบริษัทเอกชนชั้นนำของเวียดนามสองแห่ง ได้แก่ SOVICO Group และ FPT Corporation
เวลา 15.15 น. นายกรัฐมนตรีพบกับ นายเหวียน แทงห์ หุ่ง ประธานกลุ่ม SOVICO ซึ่งดำเนินธุรกิจในสาขาการบิน พลังงาน และการเงิน รวมถึงสายการบิน Vietjet Air โดยฝ่ายไทยให้การสนับสนุนแผนการขยายการลงทุนของ Thai Vietjet ในไทย รวมถึงข้อเสนอจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรและศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค
เวลา 15.30 น. นายกรัฐมนตรีพบกับ นายฝ่าม มิงห์ ถวน รองประธานบริหาร FPT Corporation ผู้นำด้านเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ของเวียดนาม ซึ่งแสดงความสนใจลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตในไทย โดยเฉพาะ AI, Data Cloud และเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงความร่วมมือด้านการศึกษา รัฐบาลไทยแสดงความยินดีต่อข้อตกลงระหว่าง FPT กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น และพร้อมสนับสนุนขยายความร่วมมือในห่วงโซ่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต
กระชับสัมพันธ์รัฐสภา–ประชาชน
เวลา 16.00 น. นายกรัฐมนตรีเข้าเยี่ยมคารวะ นายเจิ่น แทงห์ เหมิน ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม ณ ห้อง Hoa Sen สภาแห่งชาติเวียดนาม โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องขยายความร่วมมือระหว่างรัฐสภาไทย–เวียดนาม ผ่านการแลกเปลี่ยนการเยือนสมาชิกรัฐสภา การใช้กลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาอย่างมีประสิทธิภาพ และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านนิติบัญญัติ
นายกรัฐมนตรียังเสนอให้มีแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวและการค้าเชื่อมโยงกับจังหวัดในภาคอีสานของไทย โดยใช้กลไกเมืองคู่มิตรไทย–เวียดนามกว่า 20 คู่เมือง สนับสนุนกิจกรรมเชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่นและการพัฒนาเส้นทางคมนาคมร่วมกัน
ยกระดับความสัมพันธ์สู่หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน
ในช่วงค่ำ นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำต้อนรับอย่างเป็นทางการ ณ ทำเนียบรัฐบาลเวียดนาม โดยก่อนเข้างาน นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้นำนางสาวแพทองธารเยี่ยมชมนิทรรศการหัตถกรรมและของที่ระลึกที่จัดแสดงเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศ
ภายในงาน นางสาวแพทองธารกล่าวแสดงความขอบคุณรัฐบาลเวียดนามที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมเน้นย้ำว่าเวียดนามเป็นประเทศเดียวที่ไทยมีการจัดตั้งกลไกพิเศษ Joint Cabinet Retreat (JCR) ร่วมกัน และความสัมพันธ์ไทย–เวียดนามกำลังจะยกระดับสู่การเป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน” ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือในทุกมิติอย่างเป็นระบบ
ความสัมพันธ์ที่มีรากลึกถึงประชาชน
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความสัมพันธ์เชิงวัฒนธรรมและประชาชนที่แน่นแฟ้น ทั้งจากละครไทยที่ได้รับความนิยมในเวียดนาม ชุมชนไทยเชื้อสายเวียดนามในภาคอีสาน และอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ในไทย 3 แห่ง ที่อุดรธานี นครพนม และพิจิตร
ไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวเวียดนามกว่า 1 ล้านคนในปีที่ผ่านมา ขณะที่คนไทยกว่า 5 แสนคนเดินทางท่องเที่ยวเวียดนามเช่นกัน โดยเฉพาะเมืองเว้ ดานัง ดาลัด และซาปา ถือเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งในระดับประชาชน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เชิญนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ และคณะรัฐมนตรีเวียดนาม เยือนไทยเพื่อชมการแข่งขันฟุตบอลชายซีเกมส์ครั้งที่ 33 หากไทยและเวียดนามได้พบกันในรอบชิงชนะเลิศช่วงปลายปีนี้ เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างประชาชนผ่านกีฬา
วางหมากเชิงยุทธศาสตร์ในเวทีอาเซียน
ภารกิจครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลไทยในการใช้ความร่วมมือกับเวียดนามเป็นจุดตั้งต้นในการวางตำแหน่งของไทยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในมิติของการค้า การลงทุน เทคโนโลยี และวัฒนธรรม โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และใช้ภาคเอกชนเป็นกำลังหลัก
รัฐบาลกำลังวางรากฐานความสัมพันธ์ในระดับภูมิรัฐศาสตร์ ด้วยหุ้นส่วนที่มีศักยภาพสูงอย่างเวียดนาม พร้อมเดินหน้าสร้างเครือข่ายความร่วมมืออย่างยั่งยืนในทุกระดับ