IG พร้อมเกาะกระแส NFT เตรียมทดสอบระบบในสัปดาห์นี้
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) เจ้าของบริษัทเมตา (Meta) ได้กล่าวว่าจะนำ NFT (Non-Fungible Token) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอินสตาแกรม (Instagram) โดยผู้บริหารอย่าง อดัม มอสเซรี (Adam Mosseri) ได้ออกมาทวิตข้อความบนทวิตเตอร์ ในวันที่ 9 พฤษภาคมว่า ตอนนี้อินสตาแกรม (Instagram) กำลังทดสอบระบบ NFT ซึ่งจะพร้อมเปิดทดสอบการใช้งานในสัปดาห์นี้แล้ว
NFT หรือ Non-Fungible Token มีลักษณะเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบหนึ่งมีการสร้างรหัสเฉพาะที่ถูกเรียกว่าโทเคน (Token) บนเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) โดยใช้ไฟล์ดิจิทัลภาพ คลิปวิดีโอ ไอเทมในเกม ไฟล์วิดีโอที่มีลักษณะเฉพาะตัวไม่ซ้ำกัน ไฟล์ดิจิทัลที่มีการเข้ารหัส NFT แล้วจะไม่สามารถใช้ทดแทนกันได้จึงเสมือนมีลิขสิทธิ์และเป็นหนึ่งเดียวบนโลกบนแพลตฟอร์มนั้น ๆ
NFT มีความแตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัล คริปโตเคเรนซี่ (Cryptocurrency) ตรงที่มีลักษณะเป็น Fungible Token สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่มีคุณสมบัติเฉพาะตัว เช่น 1 เหรียญบิทคอยน์ที่เราถือครองอยู่จะมีมูลค่าเท่ากับ 1 เหรียญบิทคอยน์ที่อีกคนถืออยู่ เงินดิจิทัลสกุลอื่น ๆ เช่น Ethereum Cardano ต่างมีลักษณะเป็น Fungible Token เช่นเดียวกัน
ในปัจจุบันมีแพลตฟอร์ม (Platform) จำนวนมากที่เปิดให้ซื้อขายแลกเปลี่ยน สินทรัพย์ดิจิทัลที่จัดเก็บแบบ NFT บนระบบของตน อย่างเช่น โอเพ่นซี (OpenSea) และนิฟตี้ เกทเวย์ (Nifty Gateway) ซึ่งผลงานที่นิยมวางขายก็ได้แก่ รูปภาพ ข้อความ หรือไฟล์ดิจิทัลต่าง ๆ ที่รองรับ NFT ได้
ในงานสัมมนาเซาท์บายเซาท์เวสต์ (South by Southwest: SXSW) ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มาร์ก ซักเกอเบิร์ก (Mark Zuckerberg) ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารเมต้า (Meta) ได้กล่าวในงานว่าบริษัทกำลังพัฒนาการนำระบบ NFT เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอินสตาแกรมภายในไม่กี่เดือนต่อจากนี้ ซึ่งจะเน้นไปที่การนำ NFT เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งาน นำมาซึ่งการประกาศทดสอบระบบในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้นั่นเอง
อดัม มอสเซรี (Adam Mosseri) ผู้บริหารอินสตาแกรม (Instagram) ได้กล่าวถึงรายละเอียดการทดสอบบนทวิตเตอร์ (Twitter) ของเขาว่า ตอนนี้กำลังทดสอบการนำสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่ระบบด้วยความช่วยเหลือจากนักสร้างและนักสะสมในสหรัฐฯ ซึ่งเริ่มจากการทดสอบในสหรัฐฯก่อน โดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุน NFT ที่เกิดขึ้นผ่านเทคโนโลยีเครือข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ของอีเธอเรียม (Ethereum) และโพลีกอน (Polygon) ในช่วงเริ่มต้น และการโพสต์และการแชร์สินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดจะไม่มีค่าธรรมเนียม ซึ่งถือเป็นจุดที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาดอื่น ๆ ที่ ณ ตอนนี้ส่วนใหญ่จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้สร้างหรือผู้ซื้อในตลาด
แผนการทดสอบนี้ยังถูกโพสต์โดยบริษัทเมตา (Meta) และยังกล่าวด้วยว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ฟีเจอร์ดังกล่าวจะอยู่บนเฟซบุ๊ก (Facebook) ในอนาคต รวมถึงยังพิจารณาการนำ NFT ไปยังแอปพลิเคชันอื่นของบริษัท รวมถึงบนสปาร์ก เออาร์ (Spark AR) ซึ่งเป็นระบบเทคโนโลยีผสานโลกจริงกับโลกเสมือน หรือ AR (Augmented Reality) เพื่อให้สินทรัพย์ดิจิทัลสามารถแสดงบนโลกจริงได้อีกด้วย
ที่มาของข้อมูล engadget.com