รีเซต

CENTEL อ่อนแอชั่วคราว จะกลับมาเฉิดฉายหลังโควิด

CENTEL อ่อนแอชั่วคราว จะกลับมาเฉิดฉายหลังโควิด
ทันหุ้น
16 พฤศจิกายน 2563 ( 10:38 )
57
CENTEL อ่อนแอชั่วคราว จะกลับมาเฉิดฉายหลังโควิด

ทันหุ้น - สู้โควิด - บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง CENTEL ว่า ผลประกอบการ 3Q63ขาดทุนที่ 897 ลบ. หากตัดรายการพิเศษรวม 112ลบ. ผลการดำเนินงานปกติขาดทุนที่ 785ลบ. อ่อนแอลงเทียบกับขาดทุนปกติ 465 ลบ. ใน 2Q63และกำไรปกติ 215 ลบ. ใน 3Q62กดดันจาก SG&A ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้งบต่ำกว่าเราและตลาดคาดอย่างมีนัยสำคัญ

 

คงคำแนะนำเป็น ซื้อ แต่ปรับลดราคาเหมาะสม ณ สิ้น ปี 2564 เป็น 28.20 บาทต่อหุ้น (อิงค่าเฉลี่ยในอดีต) ผลประกอบการที่อ่อนแอระยะสั้น ไม่ได้สะท้อน Demand ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่คาดกลับมาแข็งแกร่ง รอเพียงเวลาถูกปลดล็อคด้านกฎเกณฑ์และการผลิตวัคซีน

 

ในระยะสั้น MINT ซึ่งเป็น PEER โดยตรงมีการลดต้นทุนได้ต่อเนื่อง แม้ต้องรับมือกับ 2nd Wave ทำให้กลายเป็นตัวเลือกที่เด่นขึ้น

 

ทั้งนี้มองว่าอ่อนแอชั่วคราว แต่จะกลับมาเฉิดฉายใน Post COVID-19 ผลประกอบการ 3Q63อ่อนแอกว่ากลุ่มและต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดอย่างมีนัยยะ

 

CENTEL รายงานผลการดำเนินงาน 3Q63 ขาดทุนสุทธิ 897 ล้านบาท แต่หากตัดรายการพิเศษ เช่น ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 56ล้านบาท ผลขาดทุนจากเงินลงทุน 29 ล้านบาท และ เงินชดเชยพนักงานจากโครงการ Early Retirement 27ล้านบาท บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานปกติขาดทุนที่ 785ล้านบาท ลดลงเทียบกับ 2Q63 ที่ขาดทุน 465ล้านบาท และ 3Q62 ที่มีกำไรปกติ 215ล้านบาท ผลประกอบการต่ำกว่าเราและตลาดคาดขาดทุนราว 380ล้านบาทอย่างมีนัยสำคัญ

 

ธุรกิจโรงแรมรายได้อยู่ที่ 429ล้านบาท (+532%QoQ, -76%YoY) เทียบกับ 2Q63ที่ทำได้เพียง 68 ล้านบาท กำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงแรมอยู่ที่ -288ล้านบาท ใน 3Q63 ดีขึ้นเทียบกับ -406ล้านบาท ใน 2Q63

 

ธุรกิจอาหารรายได้อยู่ที่ 2.6พันล้านบาท (+17.8%QoQ, -16.2%YoY) ฟื้นตัวต่อเนื่องและกลับไปใกล้เคียงระดับก่อน COVID-19 ที่ 3 พันล้านบาทต่อไตรมาส กำไรขั้นต้นธุรกิจอาหารอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท ดีขึ้นเทียบกับ 982ล้านบาท ใน 2Q63

 

SG&A อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเทียบกับ 1.1พันล้านบาท ใน 2Q63 และระดับ 1.6พันล้านบาท ใน 3Q62 โดยหากหักรายการชดเชยค่าพนักงาน ยังอยู่ในระดับสูง เป็นปัจจัยสำคัญกดดันให้งบต่ำกว่าคาด

 

ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2564 ที่ 28.20บาทต่อหุ้น อิง EV/EBITDA ที่ 10เท่า (เท่ากับค่าเฉลี่ย 5 ปี ในอดีต) เราคงคำแนะนำ ซื้อ แม้ระยะสั้นผลประกอบการออกมาผิดคาดและมีโอกาสถูกตลาดปรับลดประมาณการ อย่างไรก็ดีภาพ Post COVID-19ยังสดใสจากความแข็งแกร่งด้านการเงินที่จะสามารถผ่านวิกฤติไปได้ไม่ยาก รวมถึงมีพัฒนาการของวัคซีนที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และราคาหุ้นยังอยู่ใน Zone ถูกพร้อมแนวโน้ม Supply ของอุตสาหกรรมที่จะดีขึ้น ทำให้การปรับลดของราคาหุ้นเป็นโอกาสดีในการสะสม

 

ในระยะสั้น MINT ซึ่งเป็น PEER โดยตรงของหุ้นโรงแรมสามารถลดต้นทุนได้อย่างต่อเนื่อง แม้ต้องรับมือกับ 2nd Wave ทำให้กลายเป็นตัวเลือกที่เด่นขึ้น ความเสี่ยงสำคัญคือ พัฒนาการของวัคซีนที่อาจล่าช้า

 

รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม

สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง