หุ้น "เอเวอร์แกรนด์" ร่วงหนัก ต่ำสุดในรอบ 11 ปี นักลงทุนคาดบริษัทเบี้ยวหนี้แน่
รอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 20 กันยายนนี้ว่า ราคาหุ้นของกลุ่มบริษัท เอเวอร์แกรนด์ ยักษ์ใหญ่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ของจีน ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ยังคงร่วงลงหนักอย่างต่อเนื่องเมื่อเปิดซื้อขายในวันเดียวกันนี้ โดยถึงเที่ยงวัน ราคาตกลงมามากถึง 19 เปอร์เซ็นต์ สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปีนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2010 ที่ผ่านมา
หุ้นในส่วนบริษัทบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ของเอเวอร์แกรนด์ ร่วงลงมากกว่า 12 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ลดลง 8 เปอร์เซ็นต์ และหุ้นของบริษัท สตรีมมิงภาพยนตร์ เฮงเท็น ที่เอเวอร์แกรนด์ถือหุ้นใหญ่อยู่ ร่วงลง 14 เปอร์เซ็นต์ หลังนักลงทุนพากันเชื่อว่า เอเวอร์แกรนด์ ไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้ตามกำหนดแน่
เอเวอร์แกรนด์ กำลังประสบปัญหาหนี้สินอย่างหนัก พยายามระดมทุนจากทุกๆ ส่วนมาเพื่อใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้ทั้งที่เป็น ธนาคารและสถาบันการเงิน, ซัพพลายเออร์, และนักลงทุนที่ถือครองพันธบัตรอยู่ รวมเป็นมูลหนี้อย่างน้อย 305,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากไม่ได้รับการบริหารจัดการที่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบในทางลบต่อระบบการเงินของประเทศได้ นอกเหนือจากนั้นยังอาจลุกลามออกไปสู่เศรษฐกิจโดยรวมได้อีกด้วย
รอยเตอร์อ้างคำบอกเล่าของผู้บริหารธนาคารจีน 4 รายระบุว่า หนึ่งในผู้ปล่อยกู้หลักให้กับเอเวอร์แกรนด์ ถึงกับขึ้นบัญชี้เงินกู้ที่ปล่อยให้กับบริษัทว่าเป็นหนี้สูญแล้ว ในขณะที่เจ้าหนี้บางราย กำลังเตรียมแผนยืดระยะเวลาชำระหนี้ให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ที่เป็นนักลงทุนบางราย เพื่อชดใช้หนี้เป็น อสังหาริมทรัพย์ ที่คิดราคาต่ำเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ เอเวอร์แกรนด์ จำเป็นต้องจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตร ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมีนาคม 2022 เป็นเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 23 กันยายนนี้ และยังต้องจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรที่ครบกำหนดในเดือนมีนาคม 2024 ในวันที่ 29 กันยายนนี้อีก 47.5 ล้านดอลลาร์