ผู้แทนการค้าไทยหารือรัสเซีย ขยายการค้า-การลงทุน ดันการค้าเสรีไทย-EAEU

นายอุเมส ปานเดย์ ผู้แทนการค้าไทย เดินทางเยือนเซ็นต์ ปีเตอร์สเบิร์ก รัสเซีย หารือกับภาครัฐและภาคเอกชนรัสเซีย ในการผลักดันการขยายการค้าและการลงทุน และเร่งรัดการเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย

การขยายตัวทางการค้าระหว่างไทยกับรัสเซียลดลงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่า ในปี 2567 การค้าสองฝ่ายขยายตัวร้อยละ 4.9 โดยการค้ารวมมีมูลค่า 1.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังมีโอกาสในการขยายตัวทางการค้าระหว่างกัน เนื่องจากรัสเซียเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย

นายอุเมส ได้เข้าร่วมประชุม St. Petersburg International Economic Forum และได้พบหารือกับรัฐมนตรีรัสเซีย รวมถึง H.E. Mr. Alexey Gruzdev รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้ารัสเซีย และ H.E. Mr. Vlardimir Ilichev รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจรัสเซีย โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นที่รัสเซียระงับการนำเข้าอาหารสัตว์และผลิตภัณฑ์ทูน่ากระป๋องจากไทย รวมทั้งแนวทางในการเพิ่มการท่องเที่ยวระหว่างกัน ซึ่งรัฐมนตรีรัสเซียรับจะนำประเด็นปัญหาดังกล่าวกลับไปพิจารณาอีกครั้ง และเสนอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหารือกันโดยตรง 

ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือแนวทางการกระตุ้นการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวจาก ทั้งสองประเทศประสบปัญหาการใช้เงินสดในการจ่ายค่าสินค้าและบริการ ท่ามกลางการคว่ำบาตรการดำเนินธุรกรรมทางการเงิน

“ผมได้เข้าพบหารือกับ H.E. Mr. Maxim Reshetnikov รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจรัสเซีย ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะฝ่ายรัสเซียในการเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซียกับประเทศคู่เจรจา และขอให้รัสเซียซึ่งเป็นประเทศใหญ่ในสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซียช่วยผลักดันให้ประเทศอื่นๆ ตกลงเจรจาความตกลงการค้าเสรีกับไทย ซึ่งท่านรัฐมนตรีก็ตอบรับจะช่วยผลักดันให้” นายอุเมสกล่าว

ระหว่างการเดินทางเยือนรัสเซีย นายอุเมสยังได้เข้าร่วมหารือกับสภาหอการค้าไทย-รัสเซีย และให้ความเชื่อมั่นว่า ไทยเปิดรับการดำเนินธุรกิจและการลงทุนจากทุกประเทศ โดยนักธุรกิจรัสเซียสอบถามเกี่ยวกับการลงทุนกับบริษัทไทยในสาขาต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยา ธนาคาร โรงแรม และเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม เป็นต้น

นายอุเมสกล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมได้พบกับนักธุรกิจรัสเซียและไทยหลายท่าน และได้สอบถามเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจระหว่างไทยกับรัสเซีย ซี่งส่วนใหญ่จะเห็นว่า ปัญหาเกี่ยวกับการชำระเงินเป็นปัญหาที่สำคัญ ดังนั้นรัฐบาลทั้งสองประเทศจึงควรผลักดันในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อให้การค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับรัสเซียขยายตัวต่อไป”

ทั้งนี้ ในปี 2567 รัสเซียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 35 ของไทยในโลก และอันดับ 1 ของไทยในกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย โดยการค้ารวมมีมูลค่า 1,582.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 4.59 ซึ่งไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า 188.67 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 59.85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 46.46 

ไทยส่งออกไปรัสเซียมูลค่า 885.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 7.87 โดยมีสินค้าส่งออกที่สำคัญ เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น 

ไทยนำเข้าจากรัสเซียมูลค่า 696.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 0.69 โดยมีสินค้านำเข้าที่สำคัญ เช่น ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ สินแร่โลหะ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูป และกึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น