ข้าวไทยแพง! พิษเงินบาทแข็งค่าต่างชาติหนีไปซื้อประเทศคู่แข่ง - ส่งออกปีนี้ได้แค่ 6.5 ล้านตัน
ข้าวไทยแพง! เซ่นพิษเงินบาทแข็งค่าต่างชาติหนีไปซื้อประเทศคู่แข่ง - พาณิชย์จับมือพ่อค้าหาตลาดใหม่หวังส่งออกปีนี้แค่ 6.5 ล้านตัน
ข้าวไทยแพง! พิษเงินบาทแข็ง - นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงสถานการณ์ข้าวไทยในขณะนี้ ว่า กระทรวงได้รับรายงานถึงสถานการณ์ข้าวไทยในตลาดโลกยอมรับว่าข้าวไทยตกอยู่ในสถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก จากปัจจัยลบต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี เช่น ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่งขันมากจนทำให้ประเทศผู้นำเข้าหันไปซื้อข้าวจากประเทศคู่แข่งของไทย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อัตราค่าเงินบาทของไทยเริ่มปรับตัวอ่อนลงทำให้ผู้นำเข้าหันมาสั่งซื้อเข้าไทยมากขึ้น ดังนั้น สิ่งที่จะต้องเดินหน้าปรับปรุง คือ การตลาดทั้งระบบตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูก การรักษาวิจัยพันธุ์ข้าวชนิดใหม่มากขึ้น การลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นลงมา เพื่อให้วงจรการเพาะปลูกข้าวไทยมีราคาต่ำกว่าคู่แข่ง เพราะเชื่อว่าการจัดทำยุทธศาสตร์ข้าวไทย โดยดึงทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมจะทำให้การทำตลาดข้าวไทยในอนาคตสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนก็ตาม
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเดินหน้าหาคู่ค้าข้าวไทยในตลาดใหม่มากขึ้น เพราะเชื่อมั่นว่าคุณภาพข้าวไทยในตลาดโลกยังเป็นที่ต้องการมาก ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องมาวางแนวทางการทำตลาดข้าวไทยในตลาดโลกร่วมกันแบบให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งปีนี้ยอมรับว่าปัญหาเงินบาทที่แข็งค่าและการระบาดจากโควิด-19 ทำให้ไทยไม่สามารถเข้าไปทำตลาดในต่างประเทศได้มากนัก แต่ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้กำชับทูตพาณิชย์ประเทศต่างๆ ทั่วโลกให้เร่งหาตลาดและประชาสัมพันธ์ข้าวไทย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในตลาดต่างประเทศมากขึ้น และคาดว่าปีนี้ข้าวไทยจะทำตลาดได้น้อยลงจากตัวเลขที่ทางสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยประเมินไว้ว่าจะส่งออกได้ประมาณ 6.5 ล้านตัน ต่ำกว่าที่เคยมองในช่วงต้นปีว่าน่าจะส่งออกได้ 7-7.5 ล้านตัน โดยสาเหตุหลักจากปัญหาโควิดและเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นถือเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้ปริมาณการส่งออกข้าวไทยปีนี้ไม่ดีนัก
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้แนวทางการพัฒนาข้าวไทยดีขึ้น กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดประกวดข้าวหอมมะลิไทยในงานประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย ปีการเพาะปลูก 2562/63 ครั้งที่ 38 การประกวดข้าวตราคุณภาพดีเด่น ประจำปี 2563 และการประกาศเกียรติคุณข้าวหอมมะลิบรรจุถุงที่ได้เครื่องหมายรับรองรูปพนมมือ ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่จัดขึ้นภายใต้ยุทธศาสตร์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ทำให้ผู้ประกอบการตื่นตัวและเห็นความสำคัญในการผลิตข้าวหอมมะลิให้ได้คุณภาพดีตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกและเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้เกษตรกรในการรักษาพัฒนาคุณภาพข้าวไว้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับรายชื่อผู้ชนะประเภทเกษตรกรรายบุคคล 1. รางวัลชนะเลิศ นางประหยัดพร แก้วนอนิน จังหวัดสกลนคร 2. รองชนะเลิศอันดับ 1 นายฐาปกรณ์ เปดี หนองบัวลำภู 3. รองชนะเลิศอันดับ 2 นางพรทิพย์ แสนเมืองแก้ว จังหวัดร้อยเอ็ด และรายชื่อผู้ชนะประเภทสถาบันเกษตรกร 1. รางวัลชนะเลิศ ศูนย์ข้าวชุมชนตำบลเชียงเพ็ง จ. อุดรธานี 2. รองชนะเลิศอันดับ 1 ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านนาจาน จ.ยโสธร 3. รองชนะเลิศอันดับ 2 ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวบ้านหนองผือ จ. กาฬสินธุ์