รีเซต

อดสวย! สาวเชียงรายนับร้อยแจ้งความคลินิกเสริมสวยปิดหนีพร้อมเงิน

อดสวย!  สาวเชียงรายนับร้อยแจ้งความคลินิกเสริมสวยปิดหนีพร้อมเงิน
TNN ช่อง16
5 กรกฎาคม 2563 ( 21:57 )
340
อดสวย!  สาวเชียงรายนับร้อยแจ้งความคลินิกเสริมสวยปิดหนีพร้อมเงิน

เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (5 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีหญิงสาวจำนวนมากพากันเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ว่าได้เข้าไปใช้บริการคลินิกเสริมสวยแห่งหนึ่ง  แต่ปรากฎว่าหลังจากแต่ละคนได้โอนเงินซื้อโปรโมชั่นเข้าไปเสริมสวยในรูปแบบต่างๆ เช่น ทริสเมนต์ ทำผม ฉีดโบท็อก ฯลฯ ไปแล้วทางคลินิกกลับไม่ยอมให้บริการตามโปรโมชั่นที่ขายให้และล่าสุดยังปิดร้านหนีไปโดยไม่แจ้งโดยที่ผู้ใช้บริการแต่ละรายไม่สามารถติดต่อกับทางร้านได้อีกต่อไป โดยแต่ละคนเสียค่าใช้จ่ายรายละตั้งแต่ประมาณ 1,500 บาทและส่วนใหญ่อยู่ในหลักประมาณ 3,000-4,000 บาท รวมทั้งบางรายเสียเงินไปกว่า 100,000 บาท 


น.ส.กี้ (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่าเมื่อได้รับทราบว่าคลินิกแห่งนี้เปิดโปรโมชั่นเสริมความงามผ่านตัวแทนขายหรือเชลล์ช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้ตนไปใช้บริการในราคารวมประมาณ 5,000 บาท จากนั้นตนได้เดินทางไปใช้บริการซึ่งกำหนดเอาไว้จำนวน 10 ครั้ง ซึ่งตนได้ไปเสริมความงามผิวหน้าได้ 3 ครั้ง และครั้งถัดไปคือต้องฉีดโบท็อกแต่ทางร้านก็ได้ขอเลื่อนอ้างว่ามีวิกฤติไวรัสโควิด-19 กระทั่งต่อมาทางราชการได้ประกาศให้เปิดสถานบริการประเภทคลินิกความงามอีกครั้ง


ทำให้พวกตนได้สอบถามไปที่เชลล์ของร้านช่วงกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ปรากฎว่าทางเชลล์แจ้งว่าร้านเดิมได้ย้ายร้านออกไปแล้วและร้านเก่าเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ที่เปลี่ยนชื่อและบุคคลภายในหมดแล้ว เมื่อตนและพรรคพวกไปสอบถามที่ร้านใหม่ก็ไม่รับทราบด้วยอีกเลยทำให้เดือดร้อนหนักและแม้ว่าไม่ได้เป็นเงินมากนักแต่ก็อยากให้ผู้ที่กระทำได้รับผิดชอบต่อพวกเราด้วย และขอเตือนเพื่อนสาวว่าอย่าได้หลงเชื่อกรณีมีโปรโมชั่นราคาถูกคลินิกเสริมความงามโดยขอให้พิจารณาให้ถี่ถ้วนด้วย


ด้าน พ.ต.ท.ภาสกร สุขะ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.ท.หญิงชลธิชา ธานีวรรณ, สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย สอบปากคำและดูหลักฐานของแต่ละรายซึ่งได้เดินทางไปแจ้งความวันแรกประมาณ 20-30 คน ส่วนใหญ่มีหลักฐานใบเสร็จโอนเงินไปให้กับผู้จัดการคลินิกดังกล่าว บางรายโอนผ่านบัญชีธนาคารด้วยระบบออนไลน์จึงได้ถ่ายสำเนาไปให้กับเจ้าหน้าที่ ฯลฯ จากนั้นได้สอบปากคำแต่ละรายเอาไว้เพื่อจะติดต่อไปยังผู้จัดการคลินิกให้ไปให้ปากคำตามขั้นตอน ขณะที่ตัวแทนหญิงสาวระบุว่าผู้เสียหายแต่ละรายกระจัดกระจายกันไปจึงจะทะยอยมาแจ้งความต่อไป


พ.ต.ท.ภาสกร กล่าวว่าเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำและเก็บข้อมูลของแต่ละรายเอาไว้ก่อนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงให้มากที่สุด ล่าสุดทางตำรวจก็ได้ติดต่อไปยังผู้จัดการคลินิกได้แล้วและรับจะมาให้ปากคำว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรและเหตุใดจึงปิดกิจการไปรวมทั้งจะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไร ส่วนผู้เสียหายพบว่ามีความเสียหายแตกต่างกันไปจึงอยู่ระหว่างรวบรวมว่าจะให้เป็นเรื่องเดียวกันได้หรือไม่ต่อไป


เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง