รีเซต

จับตาดีลยักษ์ หรือดีลล่ม ? "Netflix" ซื้อ "Warner Bros." เสี่ยงผิดกฎหมายผูกขาดตลาด "ทรัมป์" กระโดดลงมาดูเอง

จับตาดีลยักษ์ หรือดีลล่ม ? "Netflix" ซื้อ "Warner Bros." เสี่ยงผิดกฎหมายผูกขาดตลาด "ทรัมป์" กระโดดลงมาดูเอง
TNN ช่อง16
12 ธันวาคม 2568 ( 08:00 )
14

"Netflix" จ่อฝันสลาย เสี่ยงผิดกฎหมายผูกขาดตลาด หลังประกาศบรรลุดีลซื้อ "Warner Bros." 


ดราม่ากว่าที่คิด เมื่อ Netflix คิดจะครองโลกสื่อ ล่าสุดประกาศบรรลุดีลจ่อเข้าซื้อ Warner Bros.หรือเจ้าของ HBO Max ด้วยเงินกว่า 72,000 ล้านดอลลาร์  หรือคิดเป็นเงินไทยคือมากถึง 2.3 ล้านล้านบาท  แต่เรื่องนี้กำลังจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะหลายฝ่ายมองว่า นี่คือการผูกขาดอำนาจสื่อ ถึงขั้นว่า “ทรัมป์”ผู้นำสหรัฐฯ ออกมาพูดว่าเตรียมลงมาดูเรื่องนี้ด้วยตัวเอง


ดีลยักษ์ใหญ่เขย่าสื่อโลก เมื่อบริษัท Netflix  (Netflix Inc.) ประกาศว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการบางส่วนของบริษัท วอร์เนอร์ บราเธอร์ส (Warner Bros. Discovery Inc.)เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้บริษัท Paramount Skydance และ Comcast ต่างก็เคยพยายามเข้าซื้อวอเนอร์มาก่อนเช่นกัน 


ความสำเร็จครั้งนี้ แลกมาด้วยเงินก้อนใหญ่  บริษัทเปิดเผยว่า ธุรกรรมนี้ประกอบด้วยเงินสดและหุ้นในราคา 27.75 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยประเมินมูลค่าของดีลนี้ที่ 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ (กว่า 2.3 ล้านล้านบาท) จากมูลค่าบริษัทที่ประมาณ 8.27 หมื่นล้านดอลลาร์


ภายใต้ในดีลนี้ Netflix จะเข้าซื้อสตูดิโอภาพยนตร์ของ Warner Bros. และบริการสตรีมมิง HBO Max ด้วย ขณะที่ธุรกิจของวอร์เนอร์จะยังเดินหน้าตามแผนเดิมในการแยกธุรกิจของ Discovery Global ออกไป ซึ่งรวมถึงพอร์ตช่องเคเบิลทีวีจำนวนมาก เช่น TNT และ CNN


Netflix ถือเป็นผู้นำบริการสตรีมมิงระดับโลกที่มาแรงในยุคหลังโควิด 19 และเป็นอีกหนึ่งตัวเปลี่ยนเกม ที่ได้พลิกโฉมอุตสาหกรรมสื่อโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นเมื่อเจ้าพ่อสื่อยุคใหม่ ได้เข้ามาผนวกรวมกับสตูดิโอเก่าแก่ ที่ผลิตภาพยนตร์มายาวนานอย่าง Warner Bros. จึงกลายเป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลอย่างยิ่ง 


การควบรวมกิจการครั้งนี้จะเปลี่ยนดุลอำนาจของฮอลลีวูดทันที เพราะเน็ตฟลิกซ์จะได้ครอบครองสินทรัพย์อย่างภาพยนตร์และซีรีส์ตระกูล Harry Potter, Game of Thrones และจักรวาล DC Comics ซึ่งจะช่วยให้เน็ตฟลิกซ์แข่งขันกับยักษ์ใหญ่อย่างดิสนีย์ (Disney) ได้เต็มที่โดยไม่ต้องง้อสตูดิโอภายนอกอีกต่อไป


ด้านความเห็นจากผู้บริหารของ Netflix  อย่าง เท็ด ซาแรนดอส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของ Netflix กล่าวในการประชุมกับนักลงทุน ระบุว่า ผมรู้ว่ามีบางคนแปลกใจที่เราเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ และผมก็เข้าใจดี ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เรามักถูกมองว่าเป็นผู้สร้าง ไม่ใช่ผู้ซื้อ 


แต่ในขณะเดียวกันเราเองก็มีรายการและภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว และมีโมเดลธุรกิจที่แข็งแรง ซึ่งสร้างประโยชน์ทั้งต่อผู้ผลิตผลงาน ผู้บริโภค และผู้ถือหุ้น นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก มันจะช่วยให้เราบรรลุภารกิจในการมอบความบันเทิงให้กับผู้คนทั่วโลก และพาผู้คนมารวมกันผ่านเรื่องราวที่ยอดเยี่ยม


สำหรับการเข้าซื้อกิจการนี้คาดว่าจะปิดดีลได้หลังจากการแยกธุรกิจเครือข่ายทีวีเสร็จสิ้น ซึ่งขณะนี้คาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสที่สามของปีหน้า 2026 โดยทั้งสองบริษัทประเมินว่าธุรกรรมจะปิดภายใน 12 ถึง 18 เดือน


ภายใต้ดีลนี้ ผู้ถือหุ้นของ Warner Bros. Discovery ทุกคนจะได้รับเงินสดที่ราคาหุ้นละ 23.25 ดอลลาร์ และหุ้นสามัญของ Netflix มูลค่า 4.50 ดอลลาร์ต่อหุ้นวอร์เนอร์ที่ถืออยู่ หลังจากดีลเสร็จสิ้น


ทั้ง Netflix และ Warner Bros. Discovery ระบุว่า คณะกรรมการบริหารของทั้งสองฝ่ายได้อนุมัติข้อตกลงครั้งนี้เป็นเอกฉันท์ แต่ยังต้องรอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลและผู้ถือหุ้นของวอเนอร์ก่อน



"ทรัมป์" ลงมาดูเอง ปมผูกขาดตลาด  Netflix ซื้อ Warner Bros.


จับตาให้ดี ว่าดีลยักษ์ครั้งจะล่มหรือไม่ เพราะมีหลายฝ่ายออกมาท้วงติง กังวลเรื่องการผูกขาดสื่อ  แม้กระทั่งผู้นำสหรัฐฯ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังเตรียมลงมาดูด้วยตนเอง


ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แสดงความกังวลกรณี Netflix เตรียมเข้าซื้อกิจการ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส  โดยชี้ว่าหากสองบริษัทรวมตัวกัน จะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดสูงเกินไปจนอาจเข้าข่ายผูกขาดทางการค้า


ทรัมป์ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ว่าธุรกรรมนี้ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบอย่างละเอียด “เรื่องนี้ต้องรอดูกันต่อไป” ทรัมป์กล่าว และเสริมว่า “แต่ส่วนแบ่งการตลาดขนาดนี้ถือว่าใหญ่มาก ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาได้”


แม้ทรัมป์จะกล่าวชื่นชมเน็ตฟลิกซ์ และยอมรับว่าเพิ่งได้พบกับ เท็ด ซาแรนดอส ซีอีโอร่วมของเน็ตฟลิกซ์ไปไม่นาน แต่ทรัมป์ก็ย้ำจุดยืนว่า เพียงแค่เน็ตฟลิกซ์เจ้าเดียวก็ครองตลาดมหาศาลอยู่แล้ว หากได้ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส เข้าไปเสริมทัพอีก ตัวเลขส่วนแบ่งจะยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก ทรัมป์จึงยืนยันว่าจะเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจครั้งนี้ด้วยตัวเอง


อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอยังจะต้องรอผ่านการพิจารณาหรืออนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  โดยเฉพาะแผนกป้องกันการผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่อาจมองว่าดีลนี้ผิดกฎหมาย เพราะภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว คือการจับมือกันระหว่างเจ้าตลาดสตรีมมิ่งเบอร์ 1 ของโลก Netflix กับ เอชบีโอ แม็กซ์ (HBO Max) ผู้เล่นอันดับ 4 และจะทำให้เน็ตฟลิกซ์ครองส่วนแบ่งตลาดเกินเพดาน 30% 


และขณะเดียวกันข่าวนี้ก็สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ มีการออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านมากมายจากหลายฟากฝั่ง  เริ่มตั้งแต่สหภาพแรงงานฮอลลีวูด ไปจนถึงเจ้าของโรงภาพยนตร์ และบริษัทคู่แข่งต่างๆ ในวงการนี้ 


สมาคมนักเขียนแห่งอเมริกาตะวันออกและตะวันตกออกแถลงการณ์ระบุว่า การควบรวมนี้ต้องถูกขัดขวาง เพราะบริษัทสตรีมมิงใหญ่สุดของโลกกำลังกลืนกินคู่แข่งใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของตลาด และมองว่านี่คือสิ่งที่กฎหมายต่อต้านการผูกขาดต้องเข้ามาป้องกัน 


ขณะที่ซีเนมายูไนเต็ด ซึ่งเป็นตัวแทนของโรงภาพยนตร์ 30,000 โรงในสหรัฐอเมริกา และ 26,000 โรงทั่วโลก กล่าวว่า ข้อตกลงนี้เสี่ยงทำให้รายได้จากการฉายภาพยนตร์ในประเทศหายไปปีละ 25% พร้อมเรียกการควบรวมนี้ว่า “ภัยคุกคามที่ไม่เคยมีมาก่อน” 


ด้านฮอลลีวูดทีมสเตอร์ ตัวแทนคนขับรถ ทีมงานคัดเลือกนักแสดง ช่างเครื่องกลและงานอื่นๆ ในอุตสาหกรรมบันเทิง ก็ออกมาเรียกร้องให้ “มีการคัดค้านจากทุกระดับของรัฐบาล”  เพราะมีผลโดยตรงต่องานของสหภาพแรงงานการดำรงชีพของสมาชิก และการดำรงอยู่ของอุตสาหกรรม


รวมไปถึงคู่แข่งในธุรกิจนี้ อย่าง Paramount มีรายงานว่า ผู้บริหารของ Paramount Skydance ได้พบกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลทรัมป์และสมาชิกสภาคองเกรสในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.  เพื่อผลักดันการคัดค้านความเป็นไปได้ที่จะควบรวมกิจการดังกล่าว  พร้อมมีการกล่าวอ้างด้วยว่าParamount ได้ส่งจดหมายถึงทีมทนายความของวอร์เนอร์ เตือนว่าหากมีการขายกิจการให้ Netflix ข้อตกลงดังกล่าวจะไม่สามารถปิดดีลได้ เพราะปัญหาด้านกฎระเบียบทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศด้วย  

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง