การเขียนเป้าหมาย ช่วยเพิ่มโอกาสในการบรรลุความสำเร็จได้มากขึ้นถึง 42%

หลายคนมักตั้งเป้าหมายไว้ในใจ เช่น อยากลดน้ำหนัก อยากออมเงิน อยากเริ่มต้นธุรกิจ หรืออยากพัฒนาทักษะใหม่ ๆ แต่สุดท้ายกลับหลงลืมหรือหมดแรงจูงใจก่อนจะไปถึงเป้าหมาย
ผลการศึกษาทางจิตวิทยาพบว่า การ “เขียนเป้าหมายของตนเองลงบนกระดาษ” เป็นพฤติกรรมเล็ก ๆ ที่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อความสำเร็จในชีวิต
งานวิจัยของ Dr. Gail Matthews นักจิตวิทยาจาก Dominican University of California ระบุว่าผู้ที่ “เขียนเป้าหมายของตนเอง” มีแนวโน้มบรรลุเป้าหมายได้มากกว่าผู้ที่ไม่ได้เขียนถึง 42%
ในการศึกษานี้ Dr. Matthews ได้รับสมัครผู้เข้าร่วมจำนวน 267 คนจากหลากหลายอาชีพและภูมิหลัง รวมถึงผู้ประกอบการ นักการศึกษา ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ศิลปิน ทนายความ และนักการเงิน โดยผู้เข้าร่วมมีอายุระหว่าง 23 ถึง 72 ปี และมาจากประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา เบลเยียม อังกฤษ อินเดีย ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น dominican.edu.
ผู้เข้าร่วมถูกสุ่มแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ดังนี้:
กลุ่มที่ 1: คิดถึงเป้าหมายของตนเองโดยไม่เขียนลงบนกระดาษ
กลุ่มที่ 2: เขียนเป้าหมายลงบนกระดาษ
กลุ่มที่ 3: เขียนเป้าหมายและกำหนดแผนปฏิบัติการ
กลุ่มที่ 4: เขียนเป้าหมาย กำหนดแผนปฏิบัติการ และส่งเป้าหมายพร้อมแผนปฏิบัติการให้กับเพื่อนที่สนับสนุน
กลุ่มที่ 5: เขียนเป้าหมาย กำหนดแผนปฏิบัติการ ส่งเป้าหมายและแผนปฏิบัติการให้กับเพื่อนที่สนับสนุน พร้อมทั้งส่งรายงานความคืบหน้าทุกสัปดาห์
หลังจาก 4 สัปดาห์ ผู้เข้าร่วมถูกขอให้ประเมินความก้าวหน้าและระดับความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายของตนเอง dominican.edu.
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มที่เขียนเป้าหมายลงบนกระดาษมีอัตราความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เขียนถึง 42% โดยกลุ่มที่มีการกำหนดแผนปฏิบัติการและรายงานความคืบหน้าต่อเพื่อนที่สนับสนุนมีอัตราความสำเร็จสูงสุด
เหตุผลที่การเขียนเป้าหมายได้ผลจริง
1. ช่วยให้เห็นภาพเป้าหมายชัดเจนขึ้น
เมื่อเขียนออกมา สมองจะประมวลผลและสร้างภาพของเป้าหมายได้ดีกว่าการคิดลอย ๆ ทำให้เข้าใจว่าแท้จริงแล้วเราต้องการอะไร
2. กระตุ้นสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำและแรงจูงใจ
การเขียนช่วยกระตุ้นสมองส่วนความจำระยะยาว ทำให้เราจดจำเป้าหมายได้แม่นยำ และเกิดแรงขับเคลื่อนภายในที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายนั้น
3. เปลี่ยนความตั้งใจให้เป็นแผนปฏิบัติได้จริง
จากประโยคกว้าง ๆ เช่น “อยากมีสุขภาพดี” กลายเป็น “จะออกกำลังกายวันละ 30 นาทีหลังเลิกงาน” การเขียนให้เฉพาะเจาะจงช่วยให้เป้าหมายสามารถวัดผลและปฏิบัติได้จริง
4. ช่วยติดตามและประเมินความคืบหน้าได้ง่าย
เมื่อมีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร เราจะสามารถทบทวนได้ว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง และต้องปรับปรุงส่วนใดเพื่อให้ก้าวต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีเขียนเป้าหมายให้มีประสิทธิภาพ
เขียนให้ เฉพาะเจาะจงและชัดเจน เช่น “อ่านหนังสือเดือนละ 2 เล่ม” แทน “อยากอ่านหนังสือมากขึ้น”
กำหนด ระยะเวลา ให้ชัด เช่น “ภายใน 3 เดือน”
เขียนใน เชิงบวก เพื่อสร้างพลังใจ เช่น “จะเริ่มออกกำลังกายทุกเช้า” แทน “จะไม่ขี้เกียจ”
ทบทวนเป็นระยะ เพื่อปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์จริง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
