สรุป X-59 เครื่องบินไฮเปอร์โซนิกตัวใหม่ของ NASA x Lockheed Martin

หนึ่งในจุดอ่อนสำคัญของเครื่องบินเจ็ตความเร็วเหนือเสียง (Hypersonic Jet) คือการปล่อยเสียงรบกวนที่ดังมากระหว่างทำความเร็วเหนือเสียง ในปี 2021 ทางนาซา (NASA) ได้เปิดตัว “X-59” เครื่องบินเจ็ตความเร็วเหนือเสียงที่ลดระดับเสียงรบกวนได้ และมีความคืบหน้าทั้งการติดตั้งกล้องแทนการใช้หน้าต่างเพื่อให้การออกแบบมีประสิทธิภาพ และล่าสุดในเดือนมกราคม NASA ได้เปิดเผยภายนอกของ X-59 อย่างเป็นทางการในที่สุด
ข้อมูล X-59 เครื่องบินไฮเปอร์โซนิกใหม่ของ NASA
นาซาได้จับมือกับทีม สกังก์ เวิร์ค (Skunk Works) ทีมวิศวกรจากบริษัทผู้พัฒนาอากาศยาน ล็อกฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) มาออกแบบ X-59 โดยคาดว่าจะสามารถบินด้วยความเร็ว 1,488 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วสูงสุด 1,590 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เครื่องยนต์ General Electric F414 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เดียวกับเครื่องบินขับไล่ F-18 Super Hornet สร้างแรงขับดันทั้งหมด 98,000 นิวตัน
ตัวเครื่องมีน้ำหนักทั้งหมด 14,700 กิโลกรัม มีความยาวลำตัว 30.4 เมตร ความยาวปีก (Wingspan) 9 เมตร มีเพดานการบินอยู่ที่ 55,000 ฟุต (16,764 เมตร) ใช้ระบบกล้องความละเอียด 4K พร้อมระบบ เอ็กซ์เทอร์นอล วิชัน ซิสเต็ม หรือ เอ็กซ์วีเอส (eXternal Vision System - XVS) มาแทนที่ โดยจอภาพจะช่วยแสดงทั้งภาพบรรยากาศโดยรอบและข้อมูลที่จำเป็นขณะบิน แทนการใช้หน้าต่างสำหรับมองทัศนวิสัยภายนอก เพื่อให้ตัวเครื่องมีรูปทรงตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics)
เป้าหมายการพัฒนา X-59 เครื่องบินไฮเปอร์โซนิกใหม่ของ NASA
เป้าหมายการพัฒนา X-59 คือการเป็นต้นแบบสำหรับเครื่องบินเจ็ตความเร็วเหนือเสียงเชิงพาณิชย์ที่ปล่อยเสียงรบกวนจากคลื่นกระแทกจากการทำความเร็ว หรือโซนิกบูม (Sonic boom) ให้น้อยลงเหลือเพียง 75 เดซิเบล (dB) ซึ่งใกล้เคียงจากระดับ จากที่ในอดีตคอนคอร์ด (Concorde) เครื่องบินเจ็ตความเร็วเหนือเสียงเคยทำเสียงโซนิกบูมไว้ถึง 111 เดซิเบล แม้ว่าจะมีความเร็วสูง 2.04 มัค (Mach) หรือ 2,170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โดยโครงการพัฒนา X-59 ในปัจจุบันใช้งบประมาณทั้งหมด 247.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8,800 ล้านบาท โดยเป็นการทุ่มงบไปกับการพัฒนาตัวต้นแบบที่ออกแบบโดยทีม สกังก์ เวิร์ค (Skunk Works) ซึ่งมีผลงานมาแล้วนับไม่ถ้วน รวมไปถึงแนวคิดเครื่องบินรบในภาพยนตร์เรื่องท็อปกัน มาเวอริค (Top Gun: Maverick) ด้วยเช่นกัน
ที่มาข้อมูล NASA, 9News, Wikipedia
ที่มารูปภาพ NASA