รีเซต

Otto Aviation เปิดตัว "Phantom 3500" เครื่องบินเจ็ตเหนือเสียงไร้หน้าต่าง

Otto Aviation เปิดตัว "Phantom 3500" เครื่องบินเจ็ตเหนือเสียงไร้หน้าต่าง
TNN ช่อง16
18 พฤษภาคม 2568 ( 01:24 )
14

ออตโต แอวิเอชัน (Otto Aviation) เปิดตัวแฟนทอม 3500 (Phantom 3500) เครื่องบินเจ็ตโดยสารความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่ ที่พลิกแนวคิดการออกแบบโดยตัด “หน้าต่าง” ออกจากห้องโดยสาร เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการบินสูงสุด ด้วยการไหลเวียนของอากาศแบบ ซูเปอร์ลามินาร์ ที่ช่วยลดแรงต้าน ลดน้ำหนักตัวเครื่อง และประหยัดเชื้อเพลิง

ก่อนหน้านี้วิศวกรการบินจำนวนไม่น้อยต่างเห็นพ้องกันว่าหน้าต่าง คือ อุปสรรคในการออกแบบเครื่องบินที่สมบูรณ์แบบ ด้วยเหตุผลด้านโครงสร้างและอากาศพลศาสตร์ การเจาะช่องหน้าต่างบนลำตัวที่ควรเป็นทรงกระบอกไร้รอยต่อจะทำให้เกิดจุดอ่อนและเพิ่มน้ำหนักโดยไม่จำเป็น อีกทั้งยังรบกวนกระแสลมเหนือผิวเครื่องบิน ส่งผลให้เกิดแรงต้านที่มากขึ้น

การออกแบบเครื่องแฟนทอม 3500 (Phantom 3500)

แฟนทอม 3500 (Phantom 3500) นำแนวคิดนี้ไปใช้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการออกแบบลำตัวเครื่องให้มีพื้นผิวเรียบไร้รอยต่อจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ขั้นสูง เพื่อรองรับการไหลของอากาศแบบลามินาร์ต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเพิ่มประสิทธิภาพเชื้อเพลิงขึ้น 35% จากช่วงการทดสอบต้นแบบ Celera 500L และใช้แพลตฟอร์มออกแบบ 3DEXPERIENCE ของบริษัท Dassault Systèmes ช่วยในการพัฒนาเครื่องบินรุ่นนี้

การควบคุมการไหลของอากาศในช่วงความเร็วทรานโซนิก Mach 0.8–1.2 หรือ 988–1,482 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้ลื่นไหลที่สุด จะช่วยลดแรงลากและเพิ่มระยะทาง ความเร็ว และความประหยัด โดยยังคงสมรรถนะเดิมไว้แฟนทอม 3500 (Phantom 3500) ยังออกแบบให้ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบแฟนแบบแยกส่วนแทนใบพัดดูดอากาศ เพื่อให้เหมาะกับภารกิจบินระยะไกล

แม้ไม่มีหน้าต่าง แต่ผู้โดยสารไม่ต้องกังวลเรื่องความอึดอัด เพราะห้องโดยสารขนาด 800 ลูกบาศก์ฟุต ราว 22.65 ลูกบาศก์เมตร ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราพร้อมติดตั้งหน้าจอดิจิทัลความละเอียดสูงแบบไร้รอยต่อรอบตัว ทั้งด้านข้างและเพดาน เพื่อจำลองทัศนียภาพภายนอกได้อย่างเสมือนจริง

ระบบขับเคลื่อน

แฟนทอม 3500 (Phantom 3500) ใช้เครื่องยนต์สองเครื่อง มีพิสัยบินไกลถึง 3,200 ไมล์ทะเล ราว 5,926 กิโลเมตร และเพดานบินสูงสุด 51,000 ฟุต หรือ 15,545 เมตร บริษัทคาดว่าจะสามารถลดต้นทุนปฏิบัติการลงได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับเครื่องบินรุ่นใกล้เคียง อีกทั้งยังมีศักยภาพในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 80%

และด้วยปีกที่สั้นแต่กว้างแฟนทอม 3500 (Phantom 3500) ยังสามารถใช้สนามบินที่มีรันเวย์สั้นเพียง 3,500 ฟุต หรือ 1,067 เมตร ได้ ซึ่งนับเป็นข้อได้เปรียบสำคัญสำหรับการให้บริการในพื้นที่จำกัด

อย่างไรก็ตาม มาร์ค มัวร์ (Mark Moore) ซีอีโอของบริษัท วิสเปอร์ แอร์โร (Whisper Aero) บริษัทนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาเครื่องบินแฟนทอม 3500 (Phantom 3500) ได้แสดงความเห็นผ่าน LinkedIn เอาไว้ว่า 

"การเปลี่ยนแปลงจากต้นแบบ Celera ไปสู่ Phantom 3500 นั้นมีความแตกต่างที่น่าจับตา ทั้งในเรื่องสัดส่วนปีก ระบบขับเคลื่อน และการเลือกใช้วัสดุที่ดูเหมือนจะเป็นอะลูมิเนียมมากกว่าคอมโพสิต Moore ตั้งข้อสังเกตว่า Celera เคยได้รับการยกย่องจาก NASA Langley ว่าเป็นเครื่องบินที่ใช้การไหลลามินาร์ได้ดีเยี่ยม และแสดงความสนใจว่าจะติดตามการพัฒนาอย่างใกล้ชิด พร้อมหวังว่าจะได้วิเคราะห์แนวคิดเบื้องหลังการตัดสินใจออกแบบในโครงการใหม่นี้"

ออตโต แอวิเอชัน (Otto Aviation) คาดว่า Phantom 3500 จะพร้อมให้บริการภายในปี 2030 และอาจกลายเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญของการบินพาณิชย์ในอนาคต ที่มุ่งสู่ความเร็วสูง ความประหยัด และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง