ขับขี่ยังไงให้ปลอดภัยในฤดูฝน
ปัจจุบันชีวิตในเมืองหากจะกล่าวว่ายานพาหนะเป็นปัจจัยที่ห้า ก็คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธ ไม่ว่าจะเดินไปไหนมาไปหากไม่มียานพาหนะส่วนตัวก็ทำให้เราไม่มีความคล่องตัว โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆ และหน้าฝนก็เริ่มคืบคลานเข้ามา ซึ่งเราจะขับแบบปกติก็อาจทำให้เกิดอันตรายทั้งตนเอง และผู้อื่น วันนี้ trueID รวบรวมวิธีการใช้รถใช้ถนนยังไงให้ปลอดภัยในช่วงฤดูฝนนี้
ขับขี่ยังไงให้ปลอดภัยในฤดูฝน
1.เช็คระบบไฟ , ที่ปัดน้ำฝน , ยางรถ และเบรคให้พร้อม
ในหน้าฝนจะต้องเตรียมสภาพรถให้พร้อมรับอากาศชื้นแฉะมากกว่าปกติครับ เช่น ระบบไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณต่างๆ สภาพของยางปัดน้ำฝน ระดับน้ำฉีดกระจก ระบบเบรค ความพร้อมของยาง และดอกยาง เช็คแรงดันลมยาง
2.เปิดไฟหน้าและหลังรถทุกครั้ง
เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงที่ฝนตกหนักมักมืดครี้มคล้ายช่วงเวลาหัวค่ำ ทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน
3. การใช้น้ำฉีดกระจกล้างสิ่งสกปรก
ในช่วงที่ฝนเริ่มตกน้ำที่กระเด็นจากการดีดจะมีลักษณะเหนียวคล้ายโคลน แม้จะใช้ก้านปัดน้ำฝนปัดก็ไม่สามารถปัดออกได้หมด จึงควรใช้น้ำฉีดกระจกช่วยชะล้างคราบโคลนเหล่านี้
4. เปิดใบปัดน้ำฝนให้แรงพอดี
ปรับระดับความเร็วของใบปัดน้ำฝน ให้สัมพันธ์กับความแรงและปริมาณฝนที่ตกลงมา
5. ลดความเร็ว ลดโอกาสลื่นไถล
ในหลายการวิจัยพบว่าช่วงที่ฝนเริ่มตกใน 10 นาทีแรก เป็นช่วงที่รถมีโอกาสลื่นไถลมากที่สุด เพราะน้ำฝนจะชะล้างคราบดิน และฝุ่นละอองที่ติดอยู่บนพื้นถนนซึ่งมีลักษณะคล้ายการละเลงโคลน ดังนั้น การลดความเร็วของรถ จึงเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
6. ต้องระวังลื่นไถลหรือเหินน้ำ
หากขณะขับรถแล้วรถลื่นไถลหรือเหินน้ำ ห้ามเหยียมเบรกจนล้อหยุดหมุนในทันที
7. ไม่ขับรถชิดคันหน้ามากเกินไป
เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่น ทำให้ต้องใช้ระยะทางในการหยุดเพิ่มขึ้น
8. อย่าเหยียบเบรคกระทันหันหรือเบรคบ่อยเกินความจำเป็น
เราควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษเพราะถนนจะลื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ฝนตกใหม่ๆ นอกจากนี้ยังควรระวังในการเหยียบเบรค อย่าเหยียบโดยไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการเหยีบเบรคกระทันหันเพราะสภาพการยึดเกาะของยางกับถนนน้อยลงนั่นเองครับ
9. หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง
การขับรถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง ผู้ขับขี่ควรหยุดประเมินสถานการณ์ และขับรถผ่านถนนในบริเวณที่มีน้ำท่วมขังน้อยที่สุด และระมัดระวังในการขับผ่านถนนที่มีลักษณะนูนเป็นหลังเต่า
10. ถ้าต้องลุยน้ำต้องปิดแอร์ ใช้เกียร์ต่ำ
ขับรถในหน้าฝนต้องเพิ่มความสังเกตให้มากขึ้น เมื่อพบจุดที่มีน้ำขังบนถนน ต้องค่อยๆลดความเร็ว และหากต้องขับผ่านบริเวณที่น้ำขังเป็นเวลานานควรสังเกตระดับความลึกของน้ำจากรถคันหน้าหรือขอบฟุตบาทข้างทางเพื่อประเมินสถานการณ์ เพราะถ้าน้ำท่วมสูงเกินไป แล้วฝืนลุยนานๆ รถอาจดับได้
ถ้าจำเป็นต้องขับลุยน้ำท่วมขังควรปิดระบบแอร์และ ใช้เกียร์ต่ำ (เกียร์ L หรือ เกียร์ 1) เพื่อไม่ให้รอบเครื่องยนต์ต่ำเกินไปน้ำอาจจะย้อนเข้าท่อไอเสียได้ และเมื่อพ้นจุดที่น้ำท่วมขังมาแล้ว อย่าลืมย้ำเบรคบ่อยๆ เพื่อรีดน้ำให้ผ้าเบรคแห้ง ป้องกันอาการเบรคลื่นด้วยนะครับ
11. หมั่นตรวจสอบ และป้องกันอุบัติเหตุล่วงหน้า
ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบสภาพยาง ใบปัดน้ำฝน ระบบสัญญาณไฟให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี และหมั่นเติมน้ำน้ำในกระปุกฉีดน้ำฝนอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งเลือกใช้ยางที่มีดอกยางละเอียดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนและหยุดรถ และป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในช่วงฝนตก
12. อย่าขับรถเร็วเกินไป
เลือกใช้ความเร็วรถให้เหมาะกับสภาพถนนและการมองเห็นเสมอ อย่าขับรถเร็วเกินไปเพราะจะทำให้ควบคุมยาก นอกจากนี้ควรขับโดยทิ้งระยะห่างขณะขับตามรถคันหน้าให้มากกว่าปกติเป็น 2 เท่าเพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุด้วยนะครับ
13. ฝนตกหนักจอดพักก่อน
ข้อนี้ต้องขอร้องจริงๆ หากขับรถแล้วเจอฝนตกหนักมากๆจนไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้ชัดเจนในระยะ 10 เมตร ควรหาที่จอดที่ปลอดภัยรอจนฝนเบาลงแล้วค่อยเดินทางต่อนะครับ เสียเวลาก็ต้องยอม หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาไม่คุ้มค่าแน่นอน
- เปิดสมรรถนะ BMW Z4
- สินเชื่อรถยนต์ 2564 เช็กธนาคารก่อนตัดสินใจ!
- อยู่ใน 'รถ' ต้องใส่หน้ากากหรือไม่ ? เปิดวิธีใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะให้ถูกต้อง