รีเซต

อนุทิน ตรวจโควิดนครศรีฯ ย้ำ! วัคซีนครบ 100 ล้านโดส พ.ย.นี้ เผยไม่ทิ้งเรื่องบรรจุ ขรก.

อนุทิน ตรวจโควิดนครศรีฯ ย้ำ! วัคซีนครบ 100 ล้านโดส พ.ย.นี้ เผยไม่ทิ้งเรื่องบรรจุ ขรก.
มติชน
8 พฤศจิกายน 2564 ( 16:10 )
130

วันนี้ (8 พฤศจิกายน 2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และคณะผู้บริการ สธ. ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และติดตามความคืบหน้าในนโยบายมะเร็งรักษาทุกที่ โดยเริ่มที่ศูนย์บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่โรงละคร อบจ.นครศรีธรรมราย (สนามหน้าเมือง) เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่ให้บริการวัคซีน ไปจนถึงประชาชนที่เข้ารับการฉีดวัคซีน จากนั้น ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาล (รพ.) มหาราชนครศรีธรรมราช ต.ในเมือง อ.เมือง เพื่อรับฟังและร่วมวางแผนการควบคุมโรคระบาด ตรวจเยี่ยมการให้บริการเครื่องฉายแสงเร่งอนุภาค ณ อาคารสหไทย จากนั้นเดินทางไปที่ รพ.สนาม และศูนย์พักคอย หอประชุมเมือง ทุ่งท่าลาด เพื่อติดตามผลการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และรับทราบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง

 

 

นายอนุทิน กล่าวว่า การลงพื้นที่มาแต่ละครั้ง ก็เพื่อไปดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมั่นใจว่า ทุกคนทำงานสุดความสามารถ แต่เมื่อมีรายงานเรื่องอุปสรรคการทำงาน ก็ต้องช่วยกันหาทางแก้ไข อีกหนึ่งเรื่องที่ติดตามเสมอคือ การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วประเทศ วางเป้าว่าต้องได้รับ 100 ล้านโดสภายในปีนี้

 

 

“สธ.คิดว่าน่าจะบรรลุเป้าในเดือนพฤศจิกายนนี้ เร็วกว่ากำหนดเดิม 30 วัน ขณะที่เรื่องยารักษาโรค มั่นใจในประสิทธิภาพของยาที่มีอยู่ในสต็อก เรามียอดผู้ติดเชื้อรวมประมาณ 2 ล้านคน หายป่วยเกือบครบทุกคน ก็มาจาก ยาที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน อาทิ ยาฟาวิพิราเวียร์ ที่ปัจจุบัน สามารถผลิตได้เองแล้ว ส่วนในอนาคต ก็พร้อมนำเข้ายาทีดี มีคุณภาพ ไว้เป็นทางเลือกเพื่อรักษาชีวิตประชาชน” นายอนุทิน กล่าวและว่า การระบาดในพื้นที่ใดก็ตาม มั่นใจว่า ทุกคนเข้าใจธรรมชาติของโรค รวมไปถึงแนวทางการป้องกันขั้นพื้นฐานแล้ว ในเรื่องวัคซีน ได้รับจัดสรรอย่างต่อเนื่องเร่งฉีด และเป็นไปตามแผนที่วางไว้

 

ขณะเดียวกัน นายอนุทิน กล่าวว่า ได้รณรงค์ให้คนเข้ามารับบริการวัคซีน และได้กำชับฝ่ายบริหาร ให้เร่งฉีดเข็มที่ 3 กับประชาชนที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ขณะที่แรงงานต่างด้าว ก็ต้องฉีดให้ด้วยเช่นกัน ส่วนเรื่องการรักษาพยาบาล ยังต้องให้ความสำคัญกับ มาตรการโฮม ไอโซเลชั่น (Home Isolation) กับ คอมมูนิตี้ ไอโซเลชั่น (Community Isolation) เพื่อให้เตียงในโรงพยาบาลไว้ใช้รักษาผู้ป่วยอาการปานกลาง จะได้ลดความสูญเสีย เป็นมาตรการร่วมกับการฉีดวัคซีนที่ใช้ได้ผล ปัจจุบัน อัตราการสูญเสียของไทยต่ำลงเรื่อยๆ

 

“หวังว่าปีใหม่นี้ คนไทยจะได้ฉลองปีใหม่ บนพื้นฐานของความปลอดภัย เรากำลังดำเนินการเพื่อให้คนไทยได้กลับมาทำมาหากิน ให้ใกล้เคียงกับยุคก่อนมีโควิด-19” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามเรื่องการบรรจุข้าราชการ นายอนุทิน กล่าวว่า กำลังดำเนินการ ต้องดูให้รอบด้าน เมื่อบรรจุเข้าไปแล้ว จะต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ไม่มีทิ้งขว้าง รัฐบาลสามารถเอาใจใส่อย่างเต็มที่ ขอย้ำว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องสำคัญ เป็นการสร้างขวัญ และกำลังใจให้กับคนทำงาน ส่วนที่มีข้อร้องเรียนจากแพทย์ชนบท ว่า อัตราที่จัดสรรให้ อาจไม่เพียงพอ ขอหารือกับปลัด สธ.ก่อน เพราะเป็นเรื่องงานประจำ ถ้ามีความเห็นอย่างไร ตนก็สนับสนุนไปตามนั้น

 

“การมาลงพื้นที่ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เพราะเรื่องการคุมโควิด-19 แต่นโยบายของ สธ.คือการต้องพัฒนาการให้บริการสุขภาพ เราพยายายามอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ล่าสุด จ.นครศรีธรรมราช ได้รับจัดสรรเครื่องฉายรังสี เพิ่มเติม ทำให้ ในจังหวัดมีเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งแล้ว 2 เครื่อง ยิ่งจะช่วยเสริมศักยภาพด้านการรักษาพยาบาล คนในพื้นที่ ไม่ต้องเดินทางไปไกล เป็นการแบ่งเบาค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน สุดท้ายนี้ งานสาธารณสุขเป็นงานที่หนักมาก ขอบคุณแพทย์ พยาบาล อสม.ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่โดยตรง ไปจนถึงฝ่ายสนับสนุนอย่างหน่วยงานด้านการปกครอง และฝ่ายความมั่นคง ขอย้ำว่ารัฐบาลเห็นความเหนื่อย เห็นความเสี่ยงที่ท่านต้องเจอ และเราไม่ทอดทิ้งท่าน ขณะนี้กำลังหาทางช่วยเหลือทุกท่าน ให้คุ้มค่ากับความเสียสละ การบรรจุข้าราชการ เป็นสิ่งจำเป็น เราไม่ต้องการเสียบุคลากรที่มีความรู้ มีประสบการณ์ มีความสามารถ อันเกิดจากว่า ไม่ได้บรรจุ ปัญหานี้ ต้องได้รับการแก้ไข” นายอนุทิน กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง