รวมอัปเดตใหญ่ไฟกระพริบวงการไอที TikTok, Google Meet, Xiaomi, Play Store, Instagram, และ Samsung
ในช่วงไม่กี่วันมานี้ หลาย ๆ แบรนด์ หลาย ๆ แพลตฟอร์มโซเชียลด้าน IT ได้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย และเพื่อเป็นการอัปเดตเรื่องราวและการอัปเดตที่น่าสนใจทั้งหมด บทความนี้ได้รวบรวมเรื่องราวทั้งหมดเอาไว้แล้ว
1. TikTok เปิดตัว TikTok Effect Studio แพลตฟอร์มสร้างเอฟเฟกต์ AR สำหรับใช้งานใน TikTok มีความสามารถเหมือน Instagram และ Snapchat เริ่มเปิดให้บางประเทศได้เข้าร่วมทดสอบแล้ว
1.1 TikTok ประกาศจับมือ Shopify เพิ่มปุ่มซื้อของ เริ่มในสหรัฐ, อังกฤษ, แคนาดา ใครที่ใช้ Shopify ขายของ และมีบัญชี TikTok For Business จะสามารถเพิ่มแท็บ Shopping ลงในโปรไฟล์ TikTok และซิงค์แคตตาล็อกสินค้าเพื่อสร้างหน้าร้านขนาดเล็กบน TikTok ได้ นอกจากนี้ยังสามารถติดแท็กสินค้าในวิดีโอ และกดเพื่อดูรายการสินค้าได้โดยตรง
2. Google Meet เพิ่มฟีเจอร์ Echo Detection ดักจับเสียงสะท้อนในขณะการประชุม แก้ปัญหาเสียงไม่ออกและเสียงสะท้อนรบกวนคนอื่น เมื่อเกิดเสียงสะท้อนขึ้น จะมีข้อความเตือนคนที่ทำให้เกิดเสียงสะท้อน ฟีเจอร์ดังกล่าวกำลังทยอยเปิดให้ผู้ใช้งานในแต่ละกลุ่มได้เริ่มทดลองใช้อยู่
3. Xiaomi ประกาศเลิกใช้แบรนด์ย่อย Mi ทำตลาด โดยจะเริ่มตั้งแต่ Xiaomi Mix 4 ที่จะไม่มีคำว่า Mi ติดมาด้วย
4. Google Play Store ทำการปรับวิธีการแสดงเรตติ้งหรือดาวของตัวแอปใหม่ อิงข้อมูลพื้นที่ของผู้ใช้งาน และอุปกรณ์ที่จะดาวน์โหลดแอปนั้น โดยตั้งแต่ พฤศจิกายน 2021 เป็นต้นไป ผู้ใช้งานจะเริ่มเห็นเรตติ้งและรีวิว ที่จำเพาะกับประเทศที่ลงทะเบียนใช้งาน และตั้งแต่ต้นปี 2022 เป็นต้นไป ผู้ใช้อุปกรณ์ Android อื่นที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟน เช่น แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์ Android ต่าง ๆ จะเห็นเรตติ้งและรีวิวเฉพาะของอุปกรณ์นั้น ๆ การอัปเดตดังกล่าวจะมีใน Google Play Console สำหรับให้นักพัฒนาได้ใช้ก่อน
5. Instagram แสดงข้อความแจ้งผู้ใช้งานที่สามารถแทรกลิงก์ใน Stories ได้ ว่าจะยกเลิกฟีเจอร์การปัดขึ้น เพื่อเข้าไปดูลิงก์จากเว็บภายนอก มีผลตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคมเป็นต้นไป เปลี่ยนไปใช้สติกเกอร์แทรกลิงก์แทน
6. Samsung ขึ้นแซง Intel เป็นอันดับ 1 ในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ เพราะความต้องการด้านชิปความจำ DRAM และ Flash memory ทำให้ Samsung มีรายได้เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 2 นี้ 19% เป็น 20.2 พันล้านดอลลาร์ ส่วนอันดับ 2 และ 3 ในธุรกิจนี้คือ Intel และ TSMC