รีเซต

เวทนา! "น้องภูเก็ต" ควายเผือกตายปริศนาถูกสับเป็นชิ้นๆ

เวทนา! "น้องภูเก็ต" ควายเผือกตายปริศนาถูกสับเป็นชิ้นๆ
TNN ช่อง16
1 กรกฎาคม 2563 ( 14:10 )
337
เวทนา! "น้องภูเก็ต" ควายเผือกตายปริศนาถูกสับเป็นชิ้นๆ

วันนี้( 1 ก.ค.63) เพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT ได้โพสต์ข้อความและภาพสุดเวทนาของ "น้องภูเก็ต" ควายเผือกที่ตายปริศนาถูกสับเป็นชิ้นๆ

โดยระบุข้อความว่า "สุดเวทนา…#น้องภูเก็ต" ควายเผือกถูกสับเป็นชิ้นๆ ส่วนเนื้อควายน้ำหนัก 400 กิโล ราคาท้องตลาด กิโลละ 400 บาทหายไป โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งไม่ยอมส่งซากให้มูลนิธิจนต้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ สภ.คอหงส์ จังหวัดสงขลา

สิบโมงเช้าวันนี้ สภาทนายความสงขลา เข้าร่วมดูแลการแจ้งความโดยตัวแทนมูลนิธิ กรณีเรื่องแปลกแต่จริง มูลนิธิอนุรักษ์โคกระบือไทยเพื่อชีวิตใหม่แก่สัตว์ถูกทอดทิ้งนำส่ง "น้องภูเก็ต" ควายเผือกถูกรถชนขาหักไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2563 แต่จู่ๆก็ได้รับการแจ้งว่าน้องภูเก็ต…ตาย

ในวันที่ 19 มิถุนายน 2563 #โดยไม่ทราบสาเหตุโดยไม่มีเอกสารยืนยันผลชันสูตรหรือการผ่าพิสูจน์ #นอกจากนั้นน้องภูเก็ตยังถูกสับเป็นชิ้นๆอย่างน่าเวทนาและไม่ยอมส่งซากคืนให้มูลนิธิจนต้องร้องเรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา พร้อมเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษที่สภ.คอหงส์ ซึ่งเป็นสถานีตำรวจในท้องที่ โดยสพ.ถลางในการกำกับดูแลของผู้กำกับถลางต้องทำหนังสือขอรับคืนซากสัตว์เนื่องมาจากน้องภูเก็ตเป็นของกลางในคดีควายถูกรถชนในเขตอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต !

หลังรับทราบว่า น้องภูเก็ตเสียชีวิต มูลนิธิฯประสงค์นำซากไปทำพิธีบังสกุล อุทิศส่วนกุศล และฝังซากให้น้องควายภูเก็ตได้ไปสู่สุคติ แต่มอ.กลับไม่ยอมส่งซากให้ อ้างว่า ไม่ทราบเจ้าของทั้งที่ ปศุสัตว์ภูเก็ต เป็นผู้นำส่งพร้อมใบเคลื่อนย้ายอย่างถูกต้องโดย น้องภูเก็ตเป็นควายเผือกของกลางที่มีมูลนิธิเป็นผู้ดูแลผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษา

โดยก่อนหน้านี้ คณบดีคณะสัตวแพทย์ฯ แจ้งมูลนิธิขอรับเงิน 10,000 บาท จากมูลนิธิอ้างนำไปซื้อรอก แต่ในที่สุดไม่ได้ซื้ออธิการบดีจึงสั่งให้คณะฯคืนเงินให้มูลนิธิ

ปศุสัตว์ภูเก็ต ยืนยันว่า ก่อนหน้าวันที่ 19 มิถุนายน คืนที่ควายตายโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่มีเอกสารการผ่าชันสูตรทางโรงพยาบาลเชิญประชุมขอเก็บเงินปศุสัตว์ฯ จำนวน 30,000 บาท อ้างเป็นควายที่ไม่มีเจ้าของเคส!

ทั้งที่ ตลอดเวลาที่ทำการรักษามูลนิธิมีการสื่อสารกับ ผอ.โรงพยาบาล มีการรายงานการรักษาและรูปถ่ายควายเผือก น้องภูเก็ต ตั้งแต่แรกทุกวัน เป็นหลักฐานแสดงว่าทางโรงพยาบาลทราบมาตั้งแต่รับควายเข้ารักษาว่า มูลนิธิฯเป็นเจ้าของเคสที่รับผิดชอบดูแลรักษาควายจนจบการรักษาและไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเรื่องค่ารักษากับปศุสัตว์ภูเก็ตแต่อย่างใด

หลังการประชุมที่ปศุสัตว์ไม่จ่าย จึงหันกลับไปทวงถามเงินค่ารักษาที่อ้างว่ามูลนิธิไม่ยอมจ่าย เป็นจำนวนเงิน 63,000.บาท !

คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ น่าจะต้องตอบคำถามมูลนิธิ สภ.ถลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนให้ได้นะครับ

1.หลังการทวงถามเงินจากปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ตแล้วไม่ได้ คืนวันที่ 19 มิถุนายน 2563 น้องภูเก็ตควายเผือกตาย ! โดยไม่ทราบสาเหตุเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลส่งภาพให้พร้อมเลือดภายในคอกตัวแทนมูลนิธิพบเห็นควายน้ำลายฟูมปากแล้วหลังจากนั้นควายก็หายไป ติดตามหาไปทั่วโรงพยาบาลก็ไม่พบ !

2.หลังมูลนิธิรับทราบว่าควายตายและพยายามขอรับทราบผลการผ่าชันสูตรแต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงว่าไม่ให้ ! ให้ไม่ได้ ! ทั้งๆที่มูลนิธิคือเจ้าของเคสและเป็นผู้ดูแลรักษาของกลาง !

แต่มีการออกหนังสือถึงปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ตในวันที่ 23 มิถุนายน 2563 อ้างว่าควายตายเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2563 และได้มีการชันสูตรซากพบเสียชีวิตเนื่องจากเส้นประสาทขาหน้าทั้งสองข้างถูกทำลายจากการถูกรถชน ไม่สามารถลุกขึ้นได้ทำให้เกิดบาดแผลกดทับอวัยวะภายในเกิดการอักเสบยึดติดกัน ไม่ค่อยกินอาหารทำให้อ่อนแอลงและติดเชื้อจากบัตรแผลกดทับเข้าสู่อวัยวะต่างๆในร่างกายจนไม่สามารถทำงานได้ต่อไป !

ตรงกันข้ามกับคำให้การของตัวแทนมูลนิธิ ซึ่งคอยดูแลควายทุกวัน และยืนยันว่าควายกินอาหารปกติ !

3.ในที่สุดมูลนิธิ ก็ได้รับทราบว่าซากของน้องภูเก็ตถูกนำไปหั่นเป็นชิ้นๆ เมื่อสอบถามอ้างว่า ไม่มีที่เก็บ! แต่มีร่องรอยแล่เนื้อหายไป 400 กิโล ! มูลนิธิประสงค์นำน้องภูเก็ตไปทำพิธีบังสุกุลและทำบุญอุทิศส่วนกุศลก็ยังไม่ยอมคืนซากให้ จนต้องขอให้ผู้กำกับถลางทำหนังสือขอรับซากคืนในฐานะเจ้าของทรัพย์ของกลาง !

WDT ดำเนินการให้ มูลนิธิโคกระบือฯ ประสาน พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ต. ทิวธวัช นครศรี ผบก.ภ.จว.สงขลา มอบหมายสั่งการให้ตัวแทนมูลนิธิเข้าแจ้งความดำเนินคดีพร้อมสภาทนายความสงขลาประสานเข้าร่วมดูแลกำกับการดำเนินคดี วันนี้ 1 กรกฎาคม 2563 เวลา 10:00 น.

ในฐานะที่มูลนิธิ เป็นผู้ส่งรักษา และ มีพยานยืนยันว่า ควายน้ำลายฟูมปากและมีเลือดออกตามภาพ จึงสงสัยว่า ควายจะถูกทารุณกรรม เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่ม เรื่อง

1. ทารุณกรรมสัตว์

2. สัตว์นั้นเป็นของกลาง ของ สภ.ถลาง เท่ากับ มีการทำลายของกลาง

3. ลักทรัพย์ เพราะแล่เนื้อเอาไปขาย ถือว่าเป็นการเอาไปโดยทุจริต หมายถึงลักทรัพย์ ลักทรัพย์นะครับไม่ใช่แค่ยักยอกทรัพย์เพราะเขาเอาทรัพย์ไปฝากให้รักษา แต่กลับแล่เอาเนื้อไปขาย ! ( เป็นหน้าที่ให้ตำรวจสืบสวนและสอบสวน)

4. ทำให้เสียทรัพย์ ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้นหลักฐานในคดี

ผกก.ถลาง เป็นเจ้าของทรัพย์ของกลางครับมูลนิธิ เป็น "ผู้ดูแล" ของกลาง ด้วยการส่งควายไปรักษาและไม่ได้อนุญาตให้มีการชำแหละหรือจำหน่ายหรือนำไปขาย

ถือว่ามูลนิธิเป็นผู้เสียหายด้วยครับ ติดตามเรื่องแปลกแต่จริงคดีนี้กันครับ RIP น้องภูเก็ต สู่สุขคตินะควายน้อย"




เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง