“Ray-Ban Stories” หรือนี่คือการเปิดโลก Metaverse ของ Facebook?
หลังจากที่ปล่อยให้คู่แข่งอย่าง Google, Snapchat นำหน้าไปนาน ล่าสุดก็ถึงทีของ Facebook ที่ปล่อยแว่นตาอัจฉริยะของตัวเองออกมาบ้าง แถมหน้าตายังสวยหรูดูดี ด้วยฝีมือการออกแบบจากแบรนด์แว่นตาระดับโลก Ray-Ban แต่การร่วมมือกันครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อความเก๋ ความเท่เพียงอย่างเดียว แต่นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บอกว่า Facebook กำลังเอาจริงเอาจังกับการเปลี่ยนตัวเองจาก Social Media Company ไปสู่โลก Metaverse แล้วจริง ๆ
“Facebook X Ray-Ban” ความร่วมมือครั้งใหญ่ที่ใคร ๆ ต่างก็พูดถึง
การคอลแลปกันครั้งนี้ได้รับความสนใจไปทั่วโลก เพราะคงไม่บ่อยนักที่สองแบรนด์ใหญ่อย่าง Facebook โซเชียลมีเดียที่ครองอิทธิพลบนโลกออนไลน์ จะมาจับมือกับ Rayban แบรนด์ผู้ผลิตแว่นตาชื่อดัง ร่วมมือกันสร้างนวัตกรรมแว่นตาอัจฉริยะ ให้ชื่อว่า “Ray-Ban Stories” ซึ่งใช้งานได้หลากหลายตั้งแต่ใส่เป็นเครื่องประทับเท่ ๆ ไปจนถึงการถ่ายภาพวิดิโอลงคอนเทนต์บน Facebook ก็ย่อมได้
แว่นตาที่เป็นมากกว่าแว่นตา
โดยความสามารถของ “Ray-Ban Stories” เรียกได้ว่าอัจฉริยะจริง ๆ เพราะทำได้ทั้งถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ ด้วยกล้องชัดระดับ 5 เมกะพิกเซล บันทึกภาพได้สูงสุด 500 ภาพ วิดีโอสูงสุด 30 วิดีโอ มีลำโพงสปีกเกอร์สำหรับฟังเพลง รับสายโทรศัพท์ แถมยังรองรับคำสั่งเสียง (voice assistant) และสามารถใช้งานคู่กับแอปพลิเคชัน Facebook View เพื่อแชร์เรื่องราวไปยังแอปพลิเคชันในเครือ Facebook และแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เช่น Twitter TikTok ได้อีกด้วย โดยตั้งราคาขายไว้ที่ 299 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 9,800 บาท วางจำหน่ายที่ Ray-Ban.com และ Ray-Ban บางสาขาในสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, แคนาดา, ไอร์แลนด์, อิตาลี และสหราชอาณาจักร รวมถึงช้อปอื่น ๆ เช่น Amazon, Best Buy
สัญญาณการมาถึงของโลกใหม่ "Metaverse"
ซึ่งการเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะครั้งนี้นับว่าเป็นก้าวสำคัญสู่โลก Metaverse ที่ Facebook เคยกล่าวไว้ โดย Zuckerberg กล่าวว่าไอเดียของแว่นตาเสมือนจริงจะกลายเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้คนสามารถมีส่วนร่วมกับโลกออนไลน์ไปพร้อม ๆ กับผู้คนรอบตัวได้ เช่น เวลา
เราขี่จักรยานแล้วเจอภาพวิวสวย ๆ ถ้าจะเอามือถือออกมาถ่ายรูปไปด้วยก็เสี่ยงอันตราย หรือถ้าจะหยุดจอดแล้วยกมือถือขึ้นถ่าย บางทีก็ไม่สะดวก แต่ด้วย “Ray-Ban Stories” เราจะทำทั้งสองอย่างไปพร้อม ๆ กันได้ เอ็นจอยทั้งโลกออกไลน์และโลกแห่งความเป็นจริงไปพร้อมกัน ซึ่งเขาเชื่อว่ามันจะเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวเข้าสู่ Metaverse ด้วยจุดเริ่มต้นจาก Augmented Reality (AR) หรือการสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริงนั่นเอง
อะไรคือ "Metaverse"
สำหรับ Metaverse เป็นศัพท์ที่หมายถึงโลกดิจิทัลเสมือนจริงที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี VR (Virtual Reality) กับ AR (Augmented Reality) เข้าด้วยกัน ผลลัพธ์ก็คือโลกเสมือนจริงที่เราสามารถเข้าไปใช้ชีวิตได้ผ่านการสวมอุปกรณ์ต่าง ๆ ต่อไปเราจะสามารถเข้าไปอยู่ในเกมได้ ลองเสื้อผ้าผ่าน VR แล้วสั่งมาส่งที่บ้านได้ หรือจะเดินทางไปเจอกับเพื่อนที่ไหนก็ทำได้ทั้งนั้น คล้ายกับในภาพยนตร์เรื่อง Ready Player One นั่นเอง
จาก Social Media Company ไปสู่ Metaverse
โดย Zuckerberg แพลนไว้ว่าภายใน 5 ปีนับจากนี้ Facebook จะต้องเปลี่ยนจาก Social Media Company ไปสู่ Metaverse ให้ได้ ซึ่ง Facebook ก็เคยเผยแนวทางไว้ว่าจะเริ่มต้นจากการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ Headsets ด้วยราคาที่ต่ำเพื่อให้เข้าถึงได้ นับจากนั้นเป็นต้นมา Facebook ก็ทยอยอัปเดตแก็ตเจ็ทและฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อปูทางไปสู่ Metaverse นี้มากขึ้น เช่น ก่อนหน้านี้พึ่งออกห้องประชุมงานเสมือนจริง ชื่อว่า Horizon Workrooms ให้ผู้ใช้งานสวมอุปกรณ์ Headsets เข้าร่วมประชุมผ่านอวตาร์ และยังมีฟีเจอร์ให้ใช้งานอีกเพียบ เช่น กระดานไวท์บอร์ด แป้นพิมพ์และคอมพิวเตอร์เสมือนจริง เป็นต้น หรือก่อนหน้านี้ก็เคยมีสายรัดข้อมืออัจฉริยะ Neural Wristband ช่วยควบคุมเทคโนโลยี VR และ AR ทำกิจกรรมต่าง ๆ แบบไม่ต้องใช้คอนโทรล
ถึงแว่นตาจะอัจฉริยะแค่ไหน แต่เรื่องความปลอดภัยก็สำคัญ
เมื่อเทคโนโลยีล้ำหน้าขนาดนี้ ไม่แปลกที่จะมีคนกังวลเรื่องของความปลอดภัย โดยล่าสุด หน่วยงานคุ้มครองข้อมูลของประเทศอิตาลี (The Italian Data Protection Authority: Garante) ก็ได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยว “Ray-Ban Stories” ในการปกป้องสิทธิของผู้ใช้งาน แต่ทางโฆษกของ Facebook ยืนยันว่าบริษัทมีการปรึกษากับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องอยู่ตลอด เพื่อให้การออกแบบผลิตภัณฑ์และการใช้งานเป็นไปอย่างถูกต้อง และ Facebook จะไม่เข้าถึงข้อมูลของลูกค้าโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต และยังติดตั้งไฟ LED บนแว่นตาเพื่อแจ้งเตือนหากมีการบันทึกภาพและวิดีโอ ส่วนวิดีโอที่ถ่ายจะเก็บไว้ในแอปพลิเคชัน Facebook View เท่านั้น และยังได้จัดทำคู่มือแนะนำให้ผู้ใช้งานไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น และไม่ใช้แว่นตานี้ในเรื่องผิดกฎหมาย
คราวหน้า Facebook จะเข็นอะไรออกมาให้เราได้ชมต่อไป Metaverse จะเป็นจริงได้ไหม อีกไม่นานคงได้รู้กัน
ขอบคุณข้อมูลจาก