นายกเมืองกระบี่ เสนอ ทส.ขอตั้งงานศิลปะ 'ยายสา' อีก 1 ปี ชี้ส่งผลดีกับพื้นที่ หลัง นทท.แห่ชม
เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่เทศบาลเมืองกระบี่ นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ เปิดแถลงต่อสื่อมวลชน กรณีที่ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ออกมาระบุถึงกรณีงานศิลปะร่วมสมัย “ยายสา” ที่ตั้งอยู่ที่แหลมอ่าวนาง ต.อ่าวนาง ซึ่งกำลังโด่งดังในโลกโซเชียล และได้มีการติดตั้งอยู่ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่อุทยานฯเกินเวลาตามที่ผู้จัดงานขออนุญาตไว้ ก่อนจะขอให้เทศบาลเมืองกระบี่รื้อออกตามที่เทศบาลรับที่จะดำเนินการในช่วงแรก
อ่านข่าว : อุทยานฯ สั่งเทศบาลรื้อศิลปะ ‘ยายสา’ ออกจากแหลมริมเขาอ่าวนาง เหตุจัดแสดงเกินเวลาที่ขออนุญาต
นายกีรติศักดิ์ระบุว่า เหตุที่ช่วงแรกทางเทศบาลไม่ได้รื้องานศิลปะ “ยายสา” เนื่องจากได้พูดคุยกับศิลปินว่า หากรื้อออกก็ต้องทำลายทิ้งอย่างเดียว จึงยังไม่รื้อออก และช่วงที่ผ่านมาโควิดระบาด แต่ปรากฏว่าหลังผ่านมานาน 2 ปี กลับเป็นเรื่องโด่งดังขึ้นมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่อ่าวนาง เป็นจำนวนมาก ส่งผลดีต่อธุรกิจในพื้นที่ สร้างรายได้ให้กับชาวอ่าวนางที่กำลังประสบปัญหาจากโควิด-19 อย่างหนัก
นายกีรติศักดิ์กล่าวว่า ทางเทศบาลมองว่า หากตั้งไว้ในจุดดังกล่าวอีกก็จะส่งผลดีกว่าการไปรื้อทิ้ง ตนจึงขอเวลาอีก 1 เดือน ในการประสานไปทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปแล้ว เพื่อขอเวลาในการให้ “ยายสา” อยู่ในจุดดังกล่าวต่อไปอีก 1 ปี หรือมากกว่านั้น เพื่อที่จะให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันก่อน หรือจะให้ติดตั้งถาวรก็จะเป็นเรื่องดีอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากประชาชนและนักท่องเที่ยวใน จ.กระบี่ รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียงทราบข่าวการเตรียมย้ายงานศิลปะ “ยายสา” ออกจากพื้นที่ ขณะนี้ได้มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมผลงานต่อเนื่อง
น.ส.กัญญารัตน์ บัวเพชร อายุ 17 ปี พร้อมครอบครัวรวม 4-5 คน ระบุว่า ขับรถยนต์ส่วนตัวมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อมาเยี่ยมชมศิลปะยายสาสักครั้งหนึ่ง หลังติดตามข่าวทั้งในทีวีและสื่อโซเชียลว่าจะมีการเคลื่อนย้ายยายสาออกจากแหลมริมเขาอ่าวนาง
“รู้สึกเสียดาย อยากให้เอาไว้จุดเดิม ไม่อยากให้เคลื่อนย้ายออกไป เนื่องจากยังมีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ทราบข่าวยังไม่มีโอกาสได้มาเยี่ยมชม”
นางจินดา หนองทะเล หรือยายศรี อายุ 86 ปี ชาวบ้านดั้งเดิมในพื้นที่ เปิดใจว่า รู้สึกเสียดายหากจะเคลื่อนย้ายศิลปะ “ยายสา” ออกไปจริงๆ ตั้งแต่ทราบข่าวในโซเชียล และมีประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก ตนก็เกิดไอเดียหารายได้เลี้ยงตัว ลงทุนซื้อผลไม้ น้ำดื่ม นำมาขายเลี้ยงตัว พอมีรายได้ จนปัจจุบัน เหมือนเป็นตัวแทน “ยายสา” คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเยี่ยมชม
นอกจากนี้ นางจินดายังเปิดเผยเรื่องราว “ยายสา” ที่เกิดขึ้นจริงในอดีต ว่า เมื่อประมาณ 30-40 ปีก่อน เดิมยายสามีที่พักเป็นกระท่อม อาศัยอยู่กับสามีบนเนินเขา หลังจุดแสดงศิลปะ ยึดอาชีพทำประมงออกทะเลหาปลา โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า ทุกวันยายสาจะเดินลงมาส่งสามี เพื่อออกทะเลหาปลาทุกวันที่แหลมริมเขา ซึ่งก่อนที่สามีออกทะเลได้บอกให้ยายสารออยู่จุดที่ส่ง คือแหลมริมเขา บริเวณที่จัดตั้งศิลปะ
อยู่มาวันหนึ่งสามียายสาประสบอุบัติเหตุ เจอคลื่นลมแรง เรือล่มเสียชีวิตกลางทะเล ยายสาจึงเฝ้ารออยู่ที่แหลมหินจุดเดิม ตามสัญญาที่ให้ไว้กับสามี ข้าวปลาไม่ได้กิน แล้วเกิดอาการเป็นลมวูบตกลงไปในทะเลเสียชีวิต จนต่อมาเรื่องราวดังกล่าวมีการเล่าขานกันต่อๆ กันมา จนศิลปินนำไปก่อสร้างเป็นศิลปะ “ยายสา”