สหรัฐฯยอมรับเครื่องบิน "เอฟ-35ซี" ตกในทะเลจีนใต้ เร่งเก็บกู้
วันนี้ ( 29 ม.ค. 65 ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเครื่องบินรบหลบเลี่ยงการตรวจจับเรดาห์ รุ่น F-35C ของกองทัพสหรัฐฯ และถือเป็นเครื่องบินรบรุ่นใหม่สุดในกองทัพเรือสหรัฐฯ ตกกระแทกเรือบรรทุกเครื่องบิน“ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน” (USS Carl Vinson) ระหว่างการซ้อมรบร่วมกับญี่ปุ่นในทะเลจีนใต้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนจะไถลตกลงไปในทะเลเหตุการณ์นี้ทำให้นักบินและลูกเรืออีก 6 คนบาดเจ็บ
พันโทนิโคลัส ลิงโก โฆษกกองเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ ซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ที่เมืองโยโกซุกะ ริมชายฝั่งจังหวัดคานางาวะของญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์ยอมรับว่า ภาพและคลิปวิดีโอ ดังกล่าวเป็นของจริง โดยบุคคลที่อยู่บนเรือคาร์ล วินสัน บันทึกไว้ได้พร้อมยืนยันว่า ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง เพื่อค้นหาและเก็บกู้ซากเครื่องบินเอฟ-35ซี ลำดังกล่าว เนื่องจากมีความกังวลในกรณีหากจีนพบซากเครื่องบินลำนี้ก่อน
สำหรับการดำเนินการกู้ซากเครื่องบินใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว ส่วนขั้นตอนนั้นหน่วยกู้ภัยและนักประดาน้ำของกองทัพเรือสหรัฐฯ จะติดกระเป๋าเข้ากับลำตัวเครื่องบินไอพ่น จากนั้นจะค่อย ๆ พองลมเพื่อยกซากปรักหักพังขึ้นมาบนผิวทะเล, การดำเนินการนี้จะยากขึ้นหากตัวเครื่องแตกเป็นเสี่ยง ๆ ไม่ได้เป็นชิ้นเดียวคาดว่าเครื่องบินลำนี้ติดตั้งขีปนาวุธอย่างน้อยสองลูกที่ใต้ปีก หรือในช่องเก็บอาวุธภายใน ซึ่งจะทำให้การเก็บกู้ยุ่งยากเช่นกัน
ด้านนายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า รัฐบาลปักกิ่งและกองทัพปลดปล่อยประชาชนไม่มีความสนกับเหตุการณ์ดังกล่าว และขอให้สหรัฐทำสิ่งที่สร้างสรรค์กว่านี้ในทะเลจีนใต้
เครื่องบิน F35-C มูลค่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราวกว่า3,300 ล้านบาท ตกลงในทะเลจีนใต้ โดยกองทัพเรือพยายามอธิบายว่าเป็นอุบัติเหตุระหว่างบินขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน และเป็นเครื่องบินลำใหม่ล่าสุดของกองทัพเรือที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิทยาการเทคโนโลยีลับเฉพาะ แต่ช่วงไม่กี่ปีมานี้ ประสบเหตุตกมาแล้ว 3 ครั้ง ในจำนวนนี้ 2 ครั้งเป็นเครื่องบินที่อังกฤษและญี่ปุ่นซื้อจากสหรัฐฯ
ภาพจาก : Twitter และ US Navy