อดีตหลวงตาวัย 85 พบรักแม่ชีวัย 48 ตัดสินใจสึกมาใช้ชีวิตคู่ สุดท้ายทะเลาะกัน ฆ่าเมียทิ้งสระ
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.นำพล ลัญฉเวโรจน์ ร้อยเวร สภ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู ได้รับแจ้งจาก กำนันตำบลป่าไม้งามว่า มีเหตุฆ่ากันตายที่หมู่บ้านโคกน้ำเกลี้ยง หมู่ที่ 3 ต.ป่าไม้งาม อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู จึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยนเรศวร ซึ่งสถานที่เกิดเหตุ อยู่บริเวณด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้าน ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 400 เมตร เส้นทางลัดออกไปยัง หมู่บ้านนาทับควาย อ.ศรีบุญเรือง เป็นลักษณะบ้านไม้น็อคดาวน์ ไม่เลขที่ ลักษณะบ้านมีเพียงห้องนอนห้องเดียว ห้องน้ำอยู่ด้านนอก และข้างบ้านมีสระน้ำ ความลึกประมาณ 3 เมตร พื้นที่ประมาณ 1 งาน
ได้พบกับ นายโพธิ์ศรี เดชเดิม อายุ 85 ปี อยู่รอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นางวาริน ศรีแล อายุ 48 ปี ภรรยาจนเสียชีวิตและลากศพจากบนบ้านลงไปทิ้งอำพรางในสระน้ำ ใช้โชฟายางรถยนต์และไม้กระทุ้งดินผูกติดร่างผู้ตาย พร้อมด้วย นายวิจิตร ศรีโพนทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหมู่บ้านและญาติพี่น้องของผู้ก่อเหตุ ในสถานที่เกิดเหตุ
นายโพธิ์ศรี เดชเดิม ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ในช่วงเวลากลางคืน ประมาณ 23.00 น.วันที่ 6 มิถุนายน 2565 ได้ทะเลาะกับภรรยา และเกิดมีปากเสียงกัน จนถึงขั้นลงไม้ลงมือ โดยภรรยาได้ไปคว้าเอามีดมาเพื่อที่จะทำร้ายตนเอง จึงได้ใช้เท้าถีบและเมื่อเห็นภรรยาล้มและยังไปคว้าจะเอามีดมาต่อสู้ จึงได้ใช้ค้อนตีตะปู ตีไปที่ท้ายทอยของภรรยา หลายครั้งจนเห็นว่าเสียชีวิต และได้นำเอาศพไปทิ้งในน้ำ อำพรางไว้ โดยได้ใช้ไม้มัดกับตัวและใช้โซฟายางรถยนต์ทับร่างไว้ จนกระทั่งรุ่งเช้า ทำตัวปกติพูดคุยกับเพื่อนบ้านเหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ต่อมาช่วงสายๆ ได้เข้าไปในหมู่บ้านหาญาติ พี่น้อง ปรึกษาหารือว่า จะทำอย่างไรดี สุดท้ายญาติพี่น้องแนะนำว่า ให้เข้ามอบตัว จึงได้ไปแจ้งกับผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านได้แจ้งประสานไปหา กำนันตำบลป่าไม้งาม และประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาตรวจสอบยังสถานทีเกิดเหตุ
นายวิจิตร ศรีโพนทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านโคกน้ำเกลี้ยง เล่าว่า ทั้งคู่ฝ่ายชายแต่ก่อนบวชเป็นพระ ฝายหญิงก็บวชชี อยู่วัดภายในหมู่บ้าน โดยฝ่ายชายมานานประมาณ 20 ปี ส่วนฝ่ายหญิงเคยมีสามีแล้ว สามีถูกจับติดคุกในคดียาเสพติด ต่อมาก็ได้ไปบวชชี หลายครั้ง จนสุดท้าย ทั้งคู่ได้สึกออกมา แต่งงานอยู่กันกันฉันสามีภรรยา ได้ประมาณ 2 เดือนกว่า ก่อนจะมาเกิดเหตุฆาตกรรมกันในครั้งนี้ ซึ่งฝ่ายหญิงนั้น ชาวบ้านก็ไม่ค่อยรู้จักประวัติเท่าไร ทราบว่า แต่เดิมอยู่บ้านซำไฮ ต.ผานกเค้า อ.ภูกระดึง จ.เลย มาอยู่หมู่บ้านนี้หลายปีแล้ว จนลูกสาวโตเรียนอยู่ ม.2 แล้ว
ซึ่งตอนนี้ศพของผู้ตาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำไปไว้ที่ โรงพยาบาล รอแจ้งหาญาติพี่น้องอีกครั้งหนึ่ง ส่วนตัวผู้ก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป ส่วนชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างจับกลุ่มวิพากวิจารณ์กัน ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวบ้านซึ่งเป็นญาติกันบางคนยังเล่าว่า ในช่วงเช้าหลังจากที่ นายโพธิ์ศรี เดชเดิม ได้ก่อเหตุแล้ว ยังเข้ามาซื้อก้อย ลาบกิน อยู่ ทำตัวเหมือนกับว่า ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นใจเย็นจริงๆ จนกระทั่งสายถึงมาปรึกษาญาติพี่น้อง เข้ามอบตัวและแจ้งว่าสถานที่อำพรางศพ
นอกจากนั้น นายไพรฑูรย์ วงศ์ชมภู ซึ่งเป็นหลายเขยบอกว่า ก่อนหน้านั้น นายโพธิ์ศรี เดชเดิม ยังเล่าให้ฟังว่า หลังจากบวชสึกออกมาแล้วมีเงินมาประมาณ 4-5 แสนบาท นำมาซื้อบ้านน็อคดาวน์ 1.2 แสนบาท และต่อเติมด้านข้าง หลังบ้านก็หมดไปบ้าง ซื้อรถยนต์อีก 60,000 บาท ซึ่งเหลือเงินสดอยู่ประมาณ 150,000 บาท แต่เมื่อประมาณ 1เดือนที่ผ่านมา ก็มาบ่นให้ฟังว่า เงินสดได้หายไป ซึ่งเอาไว้บนที่หัวที่นอน ซึ่งในบ้านก็ไม่มีใคร มีเพียงตัวเองกับภรรยา แต่ทางญาติก็ไม่ได้ติดตามอีก และน่าจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการทะเลาะกัน เพราะปกติแล้วฝ่ายหญิงไม่ค่อยทำอะไร ส่วนมากก็จะออกจากบ้านไป กลับมาอีกครั้งก็จะค่ำมืดแล้ว การทำอาหารต่างๆ จึงเป็นของฝ่ายชาย บางครั้งเห็นนั่งอยู่คนเดียวถามว่ากินอะไรหรือยัง ถ้าไม่มีก็จะหาอาหารมาให้กิน แต่ก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวชีวิตครอบครัว