ทองผันผวน 59 รอบใน 2 วัน ราคาร่วงเฉียด 2,000 บาท

ราคาทองคำผันผวนหนักสองวันติด รวม 59 รอบระหว่างวันที่ 22-23 เม.ย. 2568 จากแรงเทขายทำกำไร หลังราคาทองโลกพุ่งแรง นักลงทุนจับตาท่าทีสหรัฐฯ-จีน
สองวันร้อนแรงในตลาดทองคำ
ตลาดทองคำในประเทศไทยเผชิญกับความผันผวนสูงตลอดวันที่ 22 และ 23 เมษายน 2568 โดยมีการปรับเปลี่ยนราคาทั้งสิ้น 59 ครั้งในช่วงสองวันติดต่อกัน สะท้อนแรงเทขายกำไรอย่างชัดเจนจากนักลงทุน หลังจากราคาทองคำในตลาดโลกทะยานขึ้นแตะระดับ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐภายในเวลาเพียง 39 วัน
เฉพาะวันที่ 22 เมษายน มีการปรับราคา 36 ครั้งตลอดทั้งวัน เริ่มต้นด้วยราคาทองคำแท่งขายออกที่ 54,300 บาท และปิดวันด้วยราคา 54,450 บาท โดยราคาทองรูปพรรณขายออกเริ่มต้นที่ 55,050 บาท และปิดที่ 55,200 บาท
ราคาพุ่ง-ร่วงทุกชั่วโมง นักลงทุนเทขายไม่ยั้ง
แม้ในช่วงเช้าวันที่ 22 เม.ย. ราคาทองจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงบ่าย ราคากลับแกว่งตัวถี่ทุก 10-15 นาที โดยราคาทองคำแท่งแกว่งตัวอยู่ระหว่าง 54,250–54,500 บาท ในขณะที่ราคาทองรูปพรรณเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 55,000–55,250 บาท
ข้อมูลชี้ว่า ความผันผวนเกิดจากแรงขายจากกองทุนทองคำรายใหญ่ เช่น SPDR Gold Trust ซึ่งขายทองออกถึง 4.59 ตัน ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ในช่วง 33.18–33.33 บาทต่อดอลลาร์
เช้าวันที่ 23 เม.ย. ราคาดิ่งแรงอีก 1,800 บาท
เข้าสู่วันที่ 23 เมษายน 2568 ราคาทองคำไทยยังคงร่วงอย่างหนัก โดยมีการปรับลดถึง 23 ครั้งในช่วงครึ่งเช้า ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกเหลือเพียง 52,650 บาท ลดลงจากวันก่อนหน้าถึง 1,800 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณขายออกอยู่ที่ 53,450 บาท
การร่วงลงของราคาครั้งนี้มาจากแรงเทขายทำกำไร หลังราคาทองพุ่งต่อเนื่องเกิน 30% ภายในเวลาเพียงเดือนเศษ บวกกับความคาดหวังว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนจะคลี่คลายลง หลังสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ออกมาระบุว่าการเจรจามีความคืบหน้า
ราคาทองคำรายหน่วยล่าสุด
ราคาทองรูปพรรณรวมค่ากำเหน็จ 800 บาท ในวันที่ 23 เม.ย. มีดังนี้
- ทองครึ่งสลึง: ขาย 7,388 บาท
- ทอง 1 สลึง: ขาย 13,975 บาท
- ทอง 2 สลึง (50 สตางค์): ขาย 27,150 บาท
- ทอง 1 บาท: ขาย 53,450 บาท
- ทอง 2 บาท: ขาย 107,000 บาท
- ทอง 5 บาท: ขาย 267,500 บาท
ตลาดทองยังน่ากังวลหรือโอกาสสะสม?
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วง 2 วันแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของตลาดในช่วงข่าวสารและแรงจูงใจด้านเศรษฐกิจระดับโลก ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน นักลงทุนต้องชั่งน้ำหนักระหว่างความเสี่ยงกับโอกาสสะสมในระยะยาว โดยต้องจับตาท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการฟื้นตัวของค่าเงินบาทควบคู่กันไป