ความต้องการถือ"ทองคำ"ไตรมาส3 ทำนิวไฮ

สภาทองคำโลก (World Gold Council: WGC) เปิดเผยรายงานแนวโน้มความต้องการทองคำประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 โดยระบุว่าความต้องการทองคำโดยรวมทั่วโลกจากทุกภาคส่วน (ซึ่งรวมถึงการซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ หรือ Over-the-counter: OTC) รายไตรมาสนั้นอยู่ที่ 1,313 ตัน หรือ 146,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นไตรมาสที่มีความต้องการสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์  (ข้อมูลรายไตรมาสของ WGC ย้อนหลังไปถึงปี 2543)

การเติบโตที่สูงของความต้องการทองคำโดยรวมทั่วโลกจากทุกภาคส่วน เกิดจากความต้องการด้านการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 แตะระดับ 537 ตัน โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 47  เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคิดเป็นร้อยละ 55 ของความต้องการทองคำสุทธิทั้งหมด 

โดยอัตราการเติบโตในอุปสงค์ทองคำได้รับแรงส่งจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความผันผวน การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ และปรากฏการณ์ “FOMO” หรือความกลัวที่จะพลาดโอกาส ของนักลงทุนในช่วงที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3 โดยมียอดซื้อสุทธิรวม 220 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 28  จากไตรมาส 2 และร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แม้ราคาทองคำจะสูงเป็นประวัติการณ์ก็ตาม เมื่อพิจารณาตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน การซื้อสุทธิรวมอยู่ที่ 634 ตัน 

นายหลุยส์ สตรีท (Louise Street) นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโส ของสภาทองคำโลก กล่าวว่า  แนวโน้มของราคาทองคำยังคงเป็นบวก เนื่องจากการอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องของดอลลาร์สหรัฐ การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง และภัยคุกคามจากภาวะเศรษฐกิจชะงักงันและเงินเฟ้อ (stagflation) ซึ่งส่งผลให้ความต้องการในการลงทุนเพิ่มขึ้น ทองคำได้สร้างสถิติใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในปีนี้ และสภาพแวดล้อมปัจจุบันบ่งชี้ว่าราคาทองคำอาจมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอีก

สำหรับประเทศไทยมีความต้องการทองคำแท่งและเหรียญทองคำเพื่อการลงทุนสูงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2562  โดยนายเซาไก ฟาน (Shaokai Fan) หัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมประเทศจีน) และหัวหน้าฝ่ายธนาคารกลางระดับโลก ของสภาทองคำโลก กล่าวว่า  แนวโน้มตลาดทองคำในประเทศไทยยังคงไปในทิศทางบวก โดยความต้องการทองคำได้ทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่องและสภาวะตลาดในปัจจุบันบ่งชี้ว่าอาจมีโอกาสเพิ่มขึ้นอีก  

ด้านผลตอบแทนสำหรับนักลงทุนไทย โดยเฉพาะจากการลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญทองคำที่มีความต้องการในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2562 ซึ่งรายงานของสภาทองคำโลกชี้ให้เห็นว่าตลาดทองคำในประเทศไทยยังไม่อิ่มตัว ดังนั้นการถือครองทองคำเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตการลงทุนจึงยังคงเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ