‘จุรินทร์’ เปิดทำเนียบ 8 ก.ค. นัดถก PETA กล่าวหาไทยใช้ลิงเก็บมะพร้าว
‘จุรินทร์’ เปิดทำเนียบ 8 ก.ค. นัดถก PETA กล่าวหาไทยใช้ลิงเก็บมะพร้าว ยันการใช้ลิงเก็บมะพร้าวนั้นส่วนใหญ่ประเด็นในเรื่องทางวัฒนธรรมวิถีชีวิตและการท่องเที่ยว
จุรินทร์นัดเคลียร์ลิงเก็บมะพร้าว - นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่ผลิตภัณฑ์ส่งออกมะพร้าวของไทยแบนการส่งออก เนื่องจากถูกพีต้ากล่าวหาว่าใช้แรงงานลิง ว่า ผลิตภัณฑ์มะพร้าวจากประเทศไทยผลผลิตในปี 2562 ปีที่แล้วประมาณ 788,000 ตันและมีโรงงานแปรรูปผลผลิตจากมะพร้าว 15 โรงซึ่งทั้งหมดเป็นกะทิ 113,000 ตัน 70% บริโภคภายในประเทศ ที่เหลือก็ส่งออกมีความจำเป็นต้องนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเพิ่มเติมด้วยเพราะว่าไม่เช่นนั้นก็จะไม่พอการส่งออก เช่น นำเข้าจากอินโดนีเซีย เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว ผลิตภัณฑ์ที่สำคัญก็มี 2 ชนิด 1. กะทิ 2. มะพร้าวอ่อน แต่ประเด็นปัญหาที่อยู่ขณะนี้คือ เรื่องของกะทิ ซึ่งกะทินั้นยอดการส่งออกเมื่อปีที่แล้วตกประมาณ 12,300 ล้านบาท โดยส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (อียู) 18% มูลค่า 2,250 ล้านบาท และในสหภาพยุโรปเป็นประเทศอังกฤษหรือสหราชอาณาจักร 8% มูลค่า 1,000 ล้านบาท
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ประเด็นปัญหาที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้ก็คือมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกิดขึ้นว่าประเทศไทยมีการใช้แรงงานลิงในการเก็บมะพร้าว เรื่องนี้ซึ่งได้เคยปรากฏเป็นประเด็นขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้ สุดท้ายก็ชี้แจงทำความเข้าใจ และช่วงนี้ก็เกิดประเด็นนี้ขึ้นมาอีก ก็ได้เคยหารือกับผู้ประกอบการแปรรูปกะทิและผลผลิตอาหารสำเร็จรูปมาก่อนหน้านี้แล้ว ได้รับการชี้แจงในประเด็นนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ว่าสำหรับในเรื่องของการใช้ลิงเก็บมะพร้าวนั้นส่วนใหญ่ประเด็นในเรื่องทางวัฒนธรรมวิถีชีวิตและการท่องเที่ยวมากกว่า แต่สำหรับในเรื่องของการใช้ลิงเก็บมะพร้าวเพื่อการผลิตภาคอุตสาหกรรมเกือบจะเรียกได้ว่าไม่มีปรากฎแล้ว
“แต่ภาพของการใช้ลิงเก็บมะพร้าวที่ใช้ทางการท่องเที่ยว วิถีชีวิตอาจจะยังปรากฏในคลิปอยู่และทำให้เกิดความเข้าใจผิดและความเข้าใจคาดเคลื่อนตัวอย่างไรก็ตามวันพุธ (8 ก.ค.) ที่จะถึงนี้ ผมได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เชิญผู้ผลิตกะทิและผู้ผลิตแปรรูปผลผลิตจากมะพร้าวมาหารือกันหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อจะได้หาแนวทางร่วมกันในการที่จะชี้แจงทำความเข้าใจกับประเทศผู้นำเข้าที่ยังสงสัยอยู่รวมทั้งในองค์การพิทักษ์สัตว์ที่ต้องการข้อมูล ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะได้ข้อสรุปอีกครั้งหนึ่งว่ามาจากประชาสัมพันธ์ที่แจ้งทำความเข้าใจร่วมกันในรูปแบบไหนอย่างไรและขนาดเลี้ยงกันก็จะมีแผนที่จะเชิญทูตที่ประจำอยู่ในประเทศไทยในประเทศที่ยังมีข้อสงสัยไปดู”นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ไปดูการผลิตและการเก็บมะพร้าวภาคอุตสาหกรรมของจริงจะได้เห็นภาพว่าเป็นอย่างไร จะได้ไม่เกิดความเข้าใจที่คาดเขื่อนต่อไปเพื่อต้องการที่จะคงตัวเลขการส่งออกผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวของไทยในตลาดต่างๆ ในโลกไว้ถ้าเพิ่มได้ก็จะเป็นเรื่องดี ตนเคยเยี่ยมซูเปอร์มาร์เก็ตในแถบยุโรปบางประเทศพบว่าสินค้ากะทิจากประเทศไทยรวมทั้งผลิตภัณฑ์มะพร้าวก็เป็นที่นิยม น่าจะใช้แบรนด์จากต่างประเทศบางแบรนด์ก็ใช้เป็นมะพร้าวที่ผลิตประเทศไทยก็จะนำรายได้เข้าประเทศ สำหรับตลาดที่ได้รับผลกระทบขนาดนี้ในตลาดสหราชอาณาจักรปรากฏว่าในบรรดาตลาดเข้าที่ 100% นั้นเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตร้านอาหารและโรงแรมของชาวเอเชียประมาณ 70% ซึ่งยังไม่ได้รับผล กระทบเพราะในโซนเอเชียอาจจะมีความเข้าใจว่าเป็นอย่างไร แต่ที่มีความผลกระทบคือ 30% ที่เป็นของมีเจ้าของเป็นอียูหรือยุโรปต้องทำความเข้าใจต่อไป ซึ่งวันที่ 8 ก.ค. จะได้ข้อสรุปร่วมกัน