รีเซต

สิงคโปร์ยอดติดโควิดทะลุ 5,000 คน ทั้งที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มไปแล้วมากกว่า 80%

สิงคโปร์ยอดติดโควิดทะลุ 5,000 คน ทั้งที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มไปแล้วมากกว่า 80%
TNN ช่อง16
28 ตุลาคม 2564 ( 15:29 )
129
สิงคโปร์ยอดติดโควิดทะลุ 5,000 คน ทั้งที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มไปแล้วมากกว่า 80%

ขณะที่พบผู้เสียชีวิตรายวันเพิ่ม 10 คน จากอาการแทรกซ้อนจากการติดเชื้อโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้สิงคโปร์พบผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 349 คน


ผู้เสียชีวิต มีอายุระหว่าง 54-96 ปี โดย 9 ใน 10 คนมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ขณะที่อีก 1 รายที่เสียชีวิต พบว่ายังไม่ได้รับวัคซีน


สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 5,000 คนนี้ เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันอังคาร (26 ตุลาคม) ถึง 2,000 กว่าคน (วันอังคารพบ 3,277 คน)


ทางกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ระบุว่า จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันพุธ (27 ตุลาคม) "สูงผิดปกติ" และทางกระทรวงกำลังตรวจสอบถึงสาเหตุที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขนาดนี้ในเวลาสั้น ๆ และจะจับตาดูสถานการณ์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าอย่างใกล้ชิดด้วย


◾◾◾

🔴 ผู้ติดเชื้อ 98.7% มีอาการเพียงเล็กน้อย


แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะดูแล้วสูงจนน่ากังวล สำหรับประเทศที่มีประชากรเพียง 5.6 ล้านคนเท่านั้น แต่จากการเก็บข้อมูลในช่วง 28 วันที่ผ่านมา พบว่า สัดส่วน 98.7% ของผู้ติดเชื้อกว่า 90,000 คนนั้น ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น


0.9% ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ


0.1% มีอาการไม่คงที่และต้องจับตาอย่างใกล้ชิดในห้องผู้ป่วยวิกฤต หรือ ICU


0.1% อาการวิกฤต และต้องสอดท่อช่วยหายใจในห้อง ICU


0.2% เสียชีวิต


สาเหตุที่คนติดเชื้อมาก แต่อาการเล็กน้อย เกิดจากอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงที่สุดประเทศหนึ่งของโลก โดยมีผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วมากถึง 84% ขณะที่อีก 14% ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้วด้วย


แต่แม้ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการไม่ได้รุนแรง ก็ยังคงมีบางส่วนที่อาการหนัก และทำให้ตอนนี้เตียงผู้ป่วยในห้อง ICU ทั่วสิงคโปร์ มีสัดส่วนการครองเตียงสูงถึง 79.8% แล้ว และยังว่างอยู่เพียง 72 เตียงเท่านั้น จึงเป็นสิ่งที่ทำให้กระทรวงต้องเร่งตรวจหาสาเหตุที่ทำให้ยอดติดเชื้อพุ่งอย่างผิดปกติเช่นนี้


◾◾◾

🔴 ผู้เชี่ยวชาญย้ำให้ดูตัวเลข "ผู้ป่วยหนัก" มากกว่ารายวัน


ดร.อเล็กซ์ คุก ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดในสิงคโปร์ กล่าวถึงกรณีที่พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงกว่า 5,000 คน ที่อาจทำให้สังคมเกิดความตื่นตกใจว่า นี่ไม่ใช่ตัวชี้วัดที่ดีถึงสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศ


"จริงอยู่ที่อัตราการแพร่เชื้อที่ต่ำกว่า 1 จะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงด้วย (ปัจจุบันสิงคโปร์มีอัตราการแพร่เชื้อที่ 1.15) และมีความสำคัญที่จะทำให้ตัวเลขดังกล่าวอยู่ต่ำกว่า 1 ให้ได้ แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือ จำนวนผู้ป่วยที่อาการวิกฤต เพราะหากมีผู้ป่วยที่อาการไม่ได้รุนแรงจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ก็จะไม่ได้กระทบต่อระบบสาธารณสุขของประเทศแต่อย่างใด"


เนื่องจากผู้ป่วยโควิด-19 คนหนึ่ง ใช้เวลารักษาตัวในโรงพยาบาลมากถึง 2 สัปดาห์ ซึ่งนับว่าเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อการรับผู้ป่วยรายใหม่


◾◾◾

🔴 สิงคโปร์เพิ่มคุมเข้ม หลังยอดติดเชื้อสูงต่อเนื่อง


เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว สิงคโปร์ได้ปรับเพิ่มมาตรการคุมเข้มต่อไปอีก 1 เดือน จนถึง 21 พฤศจิกายน เพื่อหวังให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดน้อยลง เช่น


- ห้ามรวมตัวเกิน 2 คน

- ห้ามรับประทานอาหารเกิน 2 คน

- ทำงานจากบ้าน (work from home) ให้มากที่สุด


โดยทางกระทรวงสาธารณสุขย้ำว่า จะทำการทบทวนมาตรการเหล่านี้ทุก ๆ 2 สัปดาห์ เพื่อประเมินว่าจะไปในทิศทางใดต่อไป


แต่การประกาศมาตรการเหล่านี้ ก็ส่งผลให้ชาวสิงคโปร์ที่ได้รับวัคซีนแล้วเกิดความไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากยังคงถูกจำกัดการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งที่มีความหวังว่ารัฐบาลจะประกาศแผนการ "ใช้ชีวิตร่วมกับไวรัส" อย่างที่เคยประกาศไว้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

—————

เรื่อง: ภัทร จินตนะกุล

ภาพ: Reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง