ชาวบ้านผวา!! กระบะขาวตู้ทึบ 'หัวร้อน' ไล่ยิงรถบนถ.สายเอเชียนับสิบ ยังลวยนวล
ชาวบ้านผวา!! กระบะขาวตู้ทึบ ‘หัวร้อน’ ไล่ยิงรถบนถ.สายเอเชียนับสิบ ยังลวยนวล
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม น.ส.กัญจน์ณิชา นวลคล้าย อายุ 28 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ชี้ร่องรอยที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์เก๋ง โตโยต้า ยาริสมีขาวหมายเลขทะเบียน 5 กณ 9096 กรุงเทพมหานคร พร้อมกับ เปิดเผยถึงนาทีระทึกที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนไล่ยิงบนถนนสายเอเชีย ว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 กรกฎาคม เวลาประมาณ 07.40 น. ตนเองขับออก จากบ้านพัก ในอ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อไปทำงาน ขับรถอยู่บนถนนสายเอเชียขาเข้ากรุงเทพมหานคร
เมื่อมาถึงก่อนเบี่ยงเข้าถนนช่องทางคู่ขนานบริเวณเพื่อขึ้นสะพานกลับรถ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 6 ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ขับต่อแถวมาเหมือนปกติ ทุกวัน จากนั้นได้ยินเสียงดังปัง คิดว่าของในรถตก จากนั้นได้ยินเสียงดังอีกครั้ง จึงมองกระจก หลังเห็นรถยนต์กระบะสีขาว ตอนเดียวมี ตู้ทึบ ขับพยายามจะแซง ช่วงจังหวะจะลงสะพาน จะเบี่ยงหลบให้ ได้ยินเสียงดังอีก หลายครั้ง รวมแล้วประมาณ 5 ครั้ง จึงรู้ว่าถูกยิงรีบเปิดไฟฉุกเฉิน แล้วขับเบี่ยงออก เห็นรถยนต์กระบะตู้ทึบคันดังกล่าว จอดอยู่ เห็นคนขับลดกระจกลง เป็นผู้ชาย ผมสั้น ผิวดำแดง ใส่แว่นตาสีดำ ในมือถืออาวุธปืนอยู่มีควันลอยออกมา ด้วยความตกใจ จึงรีบ หนีเอาชีวิตรอด ซึ่งตนจำยี่ห้อรถและหมายเลขทะเบียนรถไม่ได้
จากนั้นไปจอดสำรวจรถที่ป้อมยามทางเข้านิคมอุตสาหกรรม พบว่าที่บริเวณ สปอย์เลอร์ด้านหลังรถถูกยิงด้วยอาวุธปืน หัวกระสุนปืนฝังอยู่ด้านใน หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน หลังจากเหตุการณ์ตนเองได้โพสต์เรื่องราวเหตุการณ์เพื่อเตือนภัยและช่วยกันติดตามหาคนร้ายพบว่า มีผู้เสียหายอีกหลายราย ถูกรถยนต์กระบะตู้ทึบแบบเดียวกัน ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถ ยิงขึ้นฟ้า ชักปืนจ่อ ข่มขู่ หลายราย
ด้านนายศิขเรศ ธนพาณิชย์วัฒนา อายุ 42 ปี ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2563 ขณะที่ตนเองพร้อมภรรยาและลูกวัย10 ขวบ ขับรถยนต์เก๋งมาตามถนนสายเอเชีย ขาขึ้น ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 15 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา กำลังจะเบี่ยงเข้าช่องทางคู่ขนาน มีรถยนต์กระบะสีขาวตู้ทึบ ขับมาเบียดไม่ยอมให้เข้าเบี่ยงเข้า
ตนจะเร่งเครื่องไปข้างหน้าจากนั้น ได้ยินเสียงปืนดัง หลายนัด ตนจึงบอกให้ภรรยาและลูกหมอบลง มองไปที่กระจกหลังเห็นรถยนต์กระบะตู้ทึบ มิตซูบิชิ สีขาว ตอนเดียว เห็นหน้าคนขับรถ โผล่ออก ในมือถืออาวุธปืนยื่นออกมาจากรถกำลังยิง ตนจีบขับหลบหนี แล้วโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที พร้อมกับ นำภาพจากกล้องหน้ารถของตนเอง ซึ่งบันทึกภาพหมายเลขทะเบียน รถยนต์กระบะของคนร้าย เอาไว้ได้ ไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งหลังจากที่หญิงสาวพนักงานบริษัท ลงโพสเตือนภัย และตนเองได้นำภาพรถยนต์ของคนร้ายไปแสดงความคิดเห็นเอาไว้ พบว่ามีผู้เสียหายอีกหลายราย เข้ามาพุดคุยว่าถูกรถยนต์กระบะคันเดียวกันไล่ยิง จนรถเสียหาย และถูกเอาปืนจ่อหัวข่มขู่ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายร้ายนี้ให้ได้เพราะเกรงว่าจะก่อเหตุไล่ยิงรถประชาชน ที่ขับรถอยู่บนถนนอีก
นาง น.ส.น้ำฝน รางทอง อายุ 44 ปี อีกหนึ่งที่ถูกคนขับรถยนต์กระบะตู้ทึบใช้อาวุธปืนข่มขู่ เล่าเหตุการณ์ ให้ฟังว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 ก.ค. ขณะที่ตนเองกำลังขายลูกชิ้นทอดหน้าบ้าน ในหมู่บ้านการเคหะอยุธยา ต.ไผลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รถยนต์กระบะ มิตซูบิชิ ได้ขับมาจอดหน้าบ้าน จากนั้นคนขับรถ เดินไปซื้อของที่ร้านค้าใกล้กับบ้าน แล้วเดินกลับมาถาม นาย ศรัน อานามารถ อายุ24 ปี ลูกชาย ว่ามองหน้าทำไม จากนั้นถลกเสื้อขึ้นโชว์ปืนที่พกเอาไว้ที่เอว นาย ศรัน ย้อนถามไปว่า แล้วมีปัญหาอะไร จังหวะนั้นคนขับรถยนต์ ได้หันกลับมาชักอาวุธปืนออกมาจ่อ จะยิงตนเองจึงรีบผลักให้ลูกชายหลบเข้าไปในบ้าน หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบว่ามีผู้เสียหายถูกรถยนต์กระบะลักษณะเดียวกัน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์ ยิงข่มขู่ และใช้อาวุธปืนข่มขู่ทั้งในชุมชนถนนสายเอเชีย ถนนทางเข้าหมู่บ้าน ในหมู่บ้านรวมแล้วกว่า 10 ราย ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จนรายล่าสุดก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงพนักงานบริษัทสาว บนถนนสายเอเชีย โดยพฤติกรรม หากมีรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ บีบแตร หรือ ขับรถขวางทาง จะใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ทันที
พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภจ.ว.พระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด และติดตามรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาดำเนินคดี
โดยล่าสุดติดตามไปที่บ้านพัก ใน.องบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบ้านของอดีตภรรยา ได้แยกทางกันแล้ว อยู่ระหว่างติดตามที่อยู่