ฟรีวีซ่าไทย-จีน "นายกฯ" ชี้จะมีผลอย่างมากต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายกฯ โพสต์ข้อความหลัง ไทย-จีน ลงนาม "ฟรีวีซ่า" ยกเป็นก้าวสำคัญในความสัมพันธ์ มีผลอย่างมากต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ภายหลังจาก นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การต่างประเทศ และนายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศประจำพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ร่วมลงนาม ความตกลง ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วย การยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกัน สำหรับ ผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาและหนังสือเดินทางกึ่งราชการ ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยความตกลงฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567
โดยจะยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของไทย และผู้ถือหนังสือเดินทางกึ่งราชการและหนังสือเดินทางธรรมดาของจีน ในการเดินทางเข้า ออก หรือผ่านแดนของทั้งสองฝ่าย ซึ่งมีระยะเวลาพำนักแต่ละครั้งไม่เกิน 30 วัน และเมื่อรวมการเดินทางหลายๆครั้งภายในห้วงเวลา 180 วัน ระยะเวลาในการพำนักรวมกันต้องไม่เกิน 90 วัน ยกเว้นกรณีการพำนักถาวร การทำงาน การศึกษา กิจกรรมด้านสื่อ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการอนุญาตล่วงหน้าจากหน่วยงานที่รับผิดชอบของอีกฝ่ายหนึ่ง
ต่อมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ ( X ) โดยระบุว่า "วันนี้ไทยกับจีนลงนามในความตกลงฟรีวีซ่าแล้วเรียบร้อยครับ สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาและหนังสือเดินทางกึ่งราชการ ก้าวสำคัญในความสัมพันธ์ไทย - จีนและจะมีผลอย่างมากต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เพียงในแง่การค้า หรือการลงทุน การท่องเที่ยวระหว่างกันจะดีขึ้นเป็นอย่างมาก"
วันนี้ไทยกับจีนลงนามในความตกลงฟรีวีซ่าแล้วเรียบร้อยครับ สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาและหนังสือเดินทางกึ่งราชการ
— Srettha Thavisin (@Thavisin) January 28, 2024
ก้าวสำคัญในความสัมพันธ์ไทย - จีนและจะมีผลอย่างมากต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เพียงในแง่การค้า หรือการลงทุน การท่องเที่ยวระหว่างกันจะดีขึ้นเป็นอย่างมาก… https://t.co/za6iMOuxA9
ภาพจาก รัฐบาล