เริ่มแล้ว! "โครงการฟันเทียม รากฟันเทียม เฉลิมพระเกียรติ" สำหรับคนไทยทุกสิทธิรักษา ตั้งเป้า 7.2 หมื่นราย ภายใน 2 ปี

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช ) เริ่มโครงการฟันเทียม รากฟันเทียม เฉลิมพระเกียรติในหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา เพื่อให้คนไทยทุกสิทธิรักษาพยาบาลที่สูญเสียฟันทั้งปากได้รับฟันเทียม ทำให้สามารถรับประทานอาหารได้ดีขึ้นช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต

 

 

โครงการนี้กำหนดระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี คือ ปี 2566 -2567 บริการใส่ฟันเทียม ทั้งปากหรือเกือบทั้งปาก ครอบคลุมคนไทยทุกอายุทุกสิทธิการรักษาทั้งสิทธิบัตรทอง ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ จำนวน 72,000 ราย เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 โดยผู้มีสิทธิบัตรทองเข้ารับการใส่ฟันเทียมที่โรงพยาบาลรัฐ ไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่จำเป็นต้องเป็นหน่วยบริการประจำตามสิทธิการรักษาของแต่ละคน แต่ขอให้เป็นหน่วยบริการใกล้บ้านเพื่อความสะดวกรักษาต่อเนื่อง สามารถรับบริการได้ทั้งที่โรงพยาบาลจังหวัด และโรงพยาบาลชุมชน จำนวน 800 แห่ง ส่วนผู้ประกันตนรับบริการได้ที่โรงพยาบาลเอกชนและคลินิกทันตกรรมเอกชนในระบบประกันสังคม โดยเบิกจ่ายจากสำนักงานประกันสังคมตามจริงไม่เกินวงเงิน 4,400 บาท ส่วนผู้มีสิทธิข้าราชการเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่ง ทั้งนี้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ป่วยใหม่เท่านั้น แต่ผู้ป่วยรายเก่าก็เข้ารับบริการได้ตามเกณฑ์รับบริการ ถ้าใส่ฟันเทียมชุดเก่านานกว่า 5 ปี

 

 

นอกจากนี้ ยังได้บริการฝังรากฟันเทียม กลุ่มเป้าหมาย 7,200 ราย หรือ 14,000 ราก ปี 2566 ให้บริการ 3,500 ราย และปีที่ 2 จำนวน 3,700 ราย เพื่อช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาใส่ฟันเทียมแล้วหลวมด้วยการยึดฟันเทียมให้แน่นขึ้น เบื้องต้น จะให้บริการเฉพาะผู้ที่มีสิทธิบัตรทองก่อน เพื่อวางระบบบริการ อย่างไรก็ตาม การให้บริการรากฟันเทียมยังมีข้อจำกัดคือ หน่วยบริการที่ทำรากฟันยังมีจำกัด ขณะนี้มีโรงพยาบาล 190 แห่งที่ทำได้ ในจำนวนนี้เป็น โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป 77 แห่ง ที่เหลือเป็นโรงพยาบาลชุมชน ส่วนในกรุงเทพฯ มีโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ ได้แก่ สถาบันทันตกรรม สถาบันประสาท และ รพ.ราชวิถี

 

 

ทั้งนี้ ผู้ที่สามารถรับบริการรากฟันเทียมได้นั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะกระดูกขากรรไกร ความพรุน ความหนา บาง รวมถึงภาวะเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบผู้ป่วยได้ โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยอีกครั้ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. โทร.1330 หรือ ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6

 

ข้อมูล สปสช.

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.

คลิกเลย >>> TrueID Community <<<