พณ.ลุยนครพนม นำกูรูชี้ช่องบุกตลาดอาร์เซ็ป
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมเตรียมจัดสัมมนา “ชี้ช่องโอกาส ลุยตลาด RCEP” วันที่ 1 เมษายน 2565 ณ โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว จังหวัดนครพนม ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้เร่งสร้างความรู้และความเข้าใจเรื่องความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และการใช้ประโยชน์จากความตกลง RCEP ให้กับผู้ประกอบการ การสัมมนาครั้งนี้ จะนำทัพกูรูแถวหน้าจากหน่วยงานต่างๆ มาให้ความรู้เกี่ยวกับความตกลง RCEP และโอกาสของไทย รวมถึงคำแนะนำทางธุรกิจด้านสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ ตลอดจนแนวทางการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ความตกลง RCEP โดยแบ่งเป็น 3 ช่วง ช่วงที่ 1 หัวข้อ “ชี้ช่องโอกาส ลุยตลาด RCEP” โดยผู้แทนผู้ทรงคุณวุฒิจากคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ช่วงที่ 2 หัวข้อ “จับคู่กู้เงิน ลุยตลาด RCEP” โดยผู้แทนจากธนาคาร EXIM BANK และช่วงที่ 3 หัวข้อ “การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ความตกลง RCEP” โดยผู้แทนจากกรมการค้าต่างประเทศ
นอกจากนี้ กรมได้ร่วมกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ดำเนินโครงการ “จับคู่กู้เงิน ลุยตลาด RCEP” จัดสินเชื่อในรูปแบบเงินกู้อัตราดอกเบี้ยพิเศษในวงเงินกู้สูงสุด รายละ 50 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการส่งออกไปตลาด RCEP ซึ่งในงานสัมมนาฯ จะมีการจัดบูธของ EXIM BANK และจัดวิทยากรบรรยายข้อมูลเรื่องการให้สินเชื่อ และการเข้าถึงแหล่งทุนแก่ผู้สนใจด้วย นับจากความตกลง RCEP มีผลใช้บังคับเมื่อต้นปี 2565 ไทยส่งออกไปกลุ่มประเทศสมาชิก RCEP 15 ประเทศ ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. 2565 มูลค่ากว่า 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 52.5% ของการส่งออกไทยไปตลาดโลก ขยายตัว 9.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่การนำเข้าของไทยจากกลุ่มประเทศ RCEP อยู่ที่ 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 16.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ ความตกลง RCEP ประกอบด้วยสมาชิก 15 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 10 ประเทศ ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ เป็นตลาดใหญ่ที่มีประชากรรวมกัน 2,193.8 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 28.6% ของประชากรโลก มี GDP มากกว่า 31.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 33.6 ของ GDP โลก มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 13.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 31.5 ของมูลค่าการค้าโลก