ขสมก. เผยปี 64 ขาดทุนยับ 6 พันล้านบาท ผู้โดยสารหาย 50% วอนรัฐเร่งคุมโควิดระบาด

ข่าววันนี้ นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงผลประกอบการในปี 2564 ว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2562 มาจนถึงปัจจุบันส่งผลกระทบทำให้ปริมาณการใช้บริการรถเมล์ ขสมก.ปรับลดลงราว 50% โดยปัจจุบัน ณ เดือน ม.ค. 2565 มีจำนวนผู้ใช้บริการเฉลี่ย วันละ 4-5 แสนคน ลดลงจากช่วงก่อนการระบาด ซึ่งอยู่ที่ วันละ 9 แสน-1 ล้านคน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ ในปี 2564 ขสมก. โดยทั้งปีมีรายได้รวมทั้งสิ้น 7-8 พันล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท ทำให้มีผลประกอบการขาดทุน 5-6 พันล้านบาท และเมื่อเทียบกับผลขาดทุนช่วงปี 2562 ก่อนระบาด ซึ่งอยู่ที่ 4-5 พันล้านบาท จะเห็นว่า ขสมก. ขาดทุนเพิ่มมากขึ้น 1 พันล้านบาท

นายกิตติกานต์กล่าวว่าสำหรับในปี 2565 นั้นปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เข้ามาซ้ำเติมทำให้ปริมาณผู้ใช้บริการรถเมล์ปรับลดลงอีก เมื่อเทียบกับช่วงปลายปีก่อน โดยล่าสุด เดือน ม.ค.2565 จำนวนผู้ใช้บริการเหลือวันละ 4-5 แสนคน ลดลงจากช่วงปลายปีก่อนตั้งแต่ 1 พ.ย. 2564 ที่รัฐบาลเปิดประเทศ ซึ่งช่วงนั้นผู้ใช้บริการเริ่มกระเตื้องและปรับสูงขึ้นเป็นวันละ 5-6 แสนคน

“หากรัฐบาลบริหารจัดการปัญหาโอมิครอนได้ดี สามารถคุมการระบาดได้ ประชาชนจะมั่นใจและกลับมาเดินทางมากขึ้น จากนี้คงต้องจับตาเดือนต่อเดือน ว่ายอดผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ หากปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง กลับมาอยู่ที่วันละ 6 แสนคนได้ คาดว่ารายได้ของขสมก.ในปี 2565 อาจจะเติบโตได้ 10% จากปีก่อน ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 7.7-8.8 พันล้านบาท สามารถลดยอดขาดทุนลงได้ 10% เช่นกัน โดย ขสมก.จะต้องเร่งปรับลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆด้วย โดยเฉพาะต้นทุนค่าซ่อม ด้วยการเร่งทำแผนฟื้นฟูกิจการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อจัดหารถเมล์ไฟฟ้าที่มีภาระต้นทุนค่าซ่อมน้อยมาให้บริการต่อไป”