เกาหลีใต้ไฟเขียว Stablecoin Kaia ดันหุ้น Kakao Pay พุ่ง

#เกาหลีใต้ #ทันหุ้น - ข้อมูลจาก Cointelegraph ได้ระบุว่า บล็อกเชนเลเยอร์ 1 อย่าง Kaia ได้ให้คำมั่นว่าจะเปิดตัวสเตเบิลคอยน์ที่อิงตามค่าเงินวอนของเกาหลีใต้ หลังการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่ นายลี แจมยอง เมื่อวันพุธ ซึ่งเป็นนักการเมืองสายซ้ายที่หาเสียงด้วยนโยบายเป็นมิตรต่อคริปโตจำนวนมาก

การเปิดตัวสเตเบิลคอยน์ผูกค่าเงินวอนเป็นหนึ่งในเป้าหมายเกี่ยวกับคริปโตที่ระบุไว้ระหว่างการหาเสียงของนายลี ซึ่งถือเป็นจุดที่แตกต่างจากผู้สมัครคนอื่นที่มีท่าทีเป็นมิตรต่อคริปโตเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การออกสเตเบิลคอยน์เผชิญอุปสรรคทางกฎหมาย เนื่องจากรัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้ให้สิทธิพิเศษในการออกสกุลเงินแก่ธนาคารกลางแห่งเกาหลี (Bank of Korea) เท่านั้น

กระนั้น พรรคประชาธิปไตยของนายลีมีแนวโน้มสนับสนุนการริเริ่มนวัตกรรมจากภาคเอกชน โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มิน บยองดุก ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการสินทรัพย์ดิจิทัลของพรรค ได้แสดงจุดยืนสนับสนุนสเตเบิลคอยน์ที่ออกโดยเอกชน และกำลังเตรียมเสนอร่างกฎหมายกฎหมายพื้นฐานสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Basic Act) ซึ่งเป็นกรอบกฎหมายที่ครอบคลุมสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต

ความเคลื่อนไหวของ Kaia ในด้านสเตเบิลคอยน์มีน้ำหนักอย่างมาก เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจาก Kakao กลุ่มบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังบริการดิจิทัลที่สำคัญของเกาหลีใต้หลายรายการ รวมถึงแอปส่งข้อความ ระบบนำทาง และบริการทางการเงิน

หุ้นกลุ่มผู้ได้รับประโยชน์จากสเตเบิลคอยน์พุ่งแรง กลุ่มบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่อยู่

ทั้งนักลงทุนแบบดั้งเดิมและนักลงทุนคริปโตในเกาหลีใต้ตอบรับอย่างดีต่อรัฐบาลชุดใหม่

จากผลสำรวจโดยหอการค้าและอุตสาหกรรมเกาหลี (KCCI) ซึ่งสื่อต่างประเทศหลายแห่งอ้างถึง พบว่าเกือบ 60% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าต้องการเพิ่มการถือครองคริปโตในช่วงรัฐบาลของลี

ความเชื่อมั่นนี้ได้ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นในวันจันทร์ โดยหุ้นของบริษัทด้านการชำระเงินอย่าง Kakao Pay และคู่แข่งอย่าง Danal ต่างปิดตลาดเพิ่มขึ้นถึง 29.9%

ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านกระเป๋าเงินดิจิทัลและระบบชำระเงินด้วย QR code ทำให้ Kakao Pay ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้ได้ประโยชน์สำคัญหากมีการเปิดตัวสเตเบิลคอยน์ในประเทศ โดยบริษัทนี้เป็นหน่วยฟินเทคของ Kakao ซึ่งบริษัทย่อยด้าน Web3 ของ Kakao คือผู้พัฒนาเชน Klaytn ซึ่งปัจจุบันได้รวมเข้ากับ Finschia ที่สนับสนุนโดย LINE ของญี่ปุ่น กลายเป็นเชน Kaia

แรงซื้อในตลาดหุ้นยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นว่า การออกกฎหมายเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์จะมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว โดย คิม ยงบอม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตหัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทร่วมลงทุนด้านบล็อกเชน Hashed ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าฝ่ายนโยบายของประธานาธิบดีลี

ร่างกฎหมายพื้นฐานสินทรัพย์ดิจิทัลที่ ส.ส.มิน กำลังจะเสนอ คาดว่าจะมีกฎหมายรองรับการออกและกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์ผูกค่าเงินวอน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการสนับสนุนทางกฎหมายกำลังเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น

ตำแหน่งประธานาธิบดีของลีและสเตเบิลคอยน์ได้ไฟเขียว

ปัจจัยความไม่แน่นอนหลักที่ปกคลุมรัฐบาลของประธานาธิบดีลีคือคดีอาญาหลายคดีที่เขายังมีความเกี่ยวข้อง ซึ่งเริ่มต้นขึ้นก่อนที่เขาจะได้รับเลือกตั้ง คดีที่มีความอ่อนไหวทางการเมืองมากที่สุด คือการพิจารณาคดีใหม่เกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายเลือกตั้งระหว่างการเลือกตั้งในปี 2022 ซึ่งเดิมมีกำหนดเริ่มต้นอีกครั้งในวันที่ 18 มิถุนายน

รัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้กำหนดให้ประธานาธิบดีมีเอกสิทธิ์คุ้มกันจากการถูกคดีอาญา ยกเว้นในกรณีกบฏหรือกบฏต่อชาติ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสิทธิ์นี้จะใช้กับคดีที่เริ่มต้นก่อนการเข้ารับตำแหน่งได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์กรุงโซลมีคำวินิจฉัยว่า มาตรา 84 ของรัฐธรรมนูญสามารถบังคับใช้ได้ ส่งผลให้การพิจารณาคดีดังกล่าวถูกเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด คำตัดสินนี้เท่ากับเป็นการเปิดทางอย่างเต็มที่ให้รัฐบาลของลีเดินหน้าวาระด้านคริปโตของตนเอง ส่วนคดีอื่นอีก 4 คดีที่เหลือ การเลื่อนหรือระงับอาจขึ้นอยู่กับการตีความของแต่ละศาลเป็นกรณีไปดำเนิน

ที่มา https://cointelegraph.com/news/kaia-won-pegged-stablecoin-south-korean-payment-stocks