รีเซต

เศรษฐกิจไทย ก.ย. 68 ได้แรงหนุนส่งออก - ท่องเที่ยวในประเทศ

เศรษฐกิจไทย ก.ย. 68 ได้แรงหนุนส่งออก - ท่องเที่ยวในประเทศ
TNN ช่อง16
30 ตุลาคม 2568 ( 13:43 )
5

นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนกันยายน 2568 ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญจากการ ส่งออกสินค้าที่ขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 และการ ท่องเที่ยวภายในประเทศที่ยังคงขยายตัว

อย่างไรก็ตาม สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงมีความไม่สม่ำเสมอ โดยการ ลงทุนภาคเอกชนและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศมีสัญญาณชะลอตัว สศค. ยังคงต้องติดตามผลกระทบของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ รวมถึงความเสี่ยงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์

ปัจจัยขับเคลื่อนและสัญญาณเศรษฐกิจสำคัญ:

  • การบริโภคภาคเอกชน: มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณรถจักรยานยนต์และรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ที่เพิ่มขึ้น 13.4% และ 18.3% ตามลำดับ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 50.7 จากความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ของรัฐบาล เช่น โครงการ "คนละครึ่ง พลัส"
  • การลงทุนภาคเอกชน: มีสัญญาณทรงตัว โดยการนำเข้าสินค้าทุนเพิ่มขึ้น 17.9% แต่ปริมาณรถยนต์เชิงพาณิชย์จดทะเบียนใหม่ลดลง -3.3% และปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศลดลง -4.3%
  • มูลค่าการส่งออกสินค้า: ยังคงขยายตัวสูง โดยมีมูลค่า 30,970.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.0% นับเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเดือนที่ 15 และสูงสุดในรอบ 42 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากสินค้าหมวดเครื่องโทรศัพท์ เครื่องคอมพิวเตอร์ และรถยนต์
  • ภาคการท่องเที่ยว: บริการด้านการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง -11.3% เหลือ 2.24 ล้านคน แต่การท่องเที่ยวภายในประเทศยังแข็งแกร่ง โดยมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเพิ่มขึ้น 4.1%
  • ภาคอุตสาหกรรม: ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 87.8 โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการจัดตั้งรัฐบาลที่รวดเร็ว ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภา

เสถียรภาพเศรษฐกิจ

เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ -0.72% สัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน ส.ค. 68 อยู่ที่ 64.6% ต่อ GDP และทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือน ก.ย. 68 ยังอยู่ในระดับสูงที่ 273.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง