รีเซต

GBS แนะ 7 หุ้นเด่นมี Upside น่าลงทุน กรอบราคาทองคำ 39,500-44,500 บ.

GBS แนะ 7 หุ้นเด่นมี Upside น่าลงทุน กรอบราคาทองคำ 39,500-44,500 บ.
ทันหุ้น
9 มกราคม 2568 ( 11:34 )
19

#ทันหุ้น - บล.โกลเบล็ก (GBS) ชี้ดัชนีหุ้นไทยปี 2568 เทรดในกรอบ 1,330-1,530 จุด ได้แรงหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดอกเบี้ยขาลง พร้อมส่งซิกธีมกลยุทธ์ Upside หุ้นน่าลงทุน แนะ  ช็อป 7 หุ้น CK-BCH-ATP30-D-AU-TNP-HL น่าจับตา


นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 2568 ไว้ที่ 1,330 - 1,530 จุด อ้างอิง จาก PE ที่ระดับ 13-15 เท่า ด้วยสมมติฐานคาดกาณ์ตัวเลข GDP ในปี 2568 ที่ 2.8% ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่เคยใช้ในกรอบ PE 14-16 เท่า โดยในไตรมาสแรกฝ่ายวิจัยมองว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากปัจจัยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ easy e -receipt, เงินหมื่นบาทให้ผู้สูงอายุ รวมถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลง ขณะที่ประเทศจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่


แต่ทั้งนี้ ยังคงต้องจับตาปัจจัยด้านความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง และสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐที่จะเป็นปัจจัยกดดันยอดส่งออก ขณะที่ปัญหาหนี้ครัวเรือนก็ยังสูงขึ้น จนส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค


นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัย ยังประเมินกรอบดัชนีการลงทุนในครึ่งปีแรกอยู่ในกรอบSideway 1,330-1,400 จุด  พร้อมทั้งมองปัจจัยเรื่องอัตราดอกเบี้ย ค่าเงินบาท และน้ำมัน  โดยรวมว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้ง ตาม FED ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2568 ประกอบค่าเงินบาทอยู่ในทิศทางอ่อนค่าเนื่องจากเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่า ซึ่งคาดว่าค่าเงินบาทจะอยู่ที่ระดับ 34-36 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่คาดว่าราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบอยู่ที่ 76 ดอลลาร์  ซึ่งลดลงจาก ปี 2567 เนื่องจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ และการผลิตเพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตรายอื่นนอกกลุ่ม OPEC+ ขณะเดียวกันความต้องการใช้น้ำมันเติบโตช้าลง ซึ่งเป็นผลจากผู้บริโภครถยนต์ไฟฟ้า (EV) มากขึ้น


สำหรับธีมหุ้นน่าลงทุนรับปีมะเส็ง ทางฝ่ายวิจัยได้คัด 2 กลุ่มเด่นน่าลงทุน ได้แก่


1.  กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยมีมุมมองบวกต่อกลุ่มรับเหมา โดยคาดว่าปี 2568 จะมีงานประมูลเพิ่มขึ้น อาทิ รถไฟฟ้าสายสีแดง 3 สาย รถไฟรางคู่ 6 เส้นทาง มอเตอร์เวย์ 2 สาย ทางด่วน Double Deck และการขยายสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิและเชียงใหม่ มูลค่ารวม 4.9 แสนล้านบาท โดยทางบล.โกลเบล็ก แนะนำ ซื้อหุ้น CK (ซึ่ง Consensus ให้ราคาเหมาะสมที่ 26.50 บาทต่อหุ้น)


2. กลุ่มโรงพยาบาล มองว่าได้ประโยชน์จากเป้าหมายสู่การเป็น “ศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ” (Wellness and Medical Hub) สนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) จากกรณีการเข้ามาท่องเที่ยวของต่างชาติ จึงแนะนำหุ้น BCH ที่ราคาเหมาะสม Consensus 21 บาทต่อหุ้น


ขณะที่หุ้นในกลุ่ม mai  แนะนำซื้อหุ้น  ATP 30 โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 1.25 บาทต่อหุ้น จากการเติบโตของรายได้และกำไร เพราะมีจำนวนลูกค้าเดิมให้บริการเพิ่ม และมีการรับลูกค้าใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังแนะนำ หุ้น D ให้ราคาเหมาะสมที่ 5.06 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโตเพิ่มขึ้น และที่ได้ประโยชน์จากมาตรการ Easy e-receipt ได้แก่ หุ้น AU ราคาเหมาะสมที่ 13.50 บาทต่อหุ้น , TNP ราคาเหมาะสมที่ 5 บาทต่อหุ้น และ HL (อยู่ระหว่างทบทวนราคาเหมาะใหม่)


ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินราคาทองคำมีโอกาสพักฐาน เนื่องจากเฟดส่งสัญญาณชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2568 จากเดิมคาด 4 ครั้ง เหลือ 2 ครั้ง ประกอบกับรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำโดย “ทรัมป์” จะช่วยทำให้สงครามในภูมิภาคตะวันออกกลาง และสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ชะลอลง เนื่องจากทรัมป์ ไม่สนับสนุนการทำสงคราม ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำถูกลดความน่าสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย


นอกจากนี้ นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่สหรัฐฯ มีแนวโน้มทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม เงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าจากปัจจัยข้างต้นจะช่วยพยุงราคาทองคำไทย โดยให้กรอบราคาทองคำ Gold Spot ในปี 2568 ไว้ที่ระดับ 2,420-2,740 $/Oz (-7% หรือ +5%) และเมื่อเทียบเป็นราคาทองคำไทยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 39,500 - 44,500 บาท


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง