รีเซต

ราคาบิทคอยน์สัปดาห์นี้ มีโอกาสเข้าสู่สภาวะตลาดหมีได้หรือไม่?

ราคาบิทคอยน์สัปดาห์นี้ มีโอกาสเข้าสู่สภาวะตลาดหมีได้หรือไม่?
TNN ช่อง16
15 มีนาคม 2565 ( 17:18 )
78

ท่ามกลางสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลและหันไปถือครองสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงมากขึ้น สินทรัพย์เสี่ยงอย่างบิทคอยน์ เลยผันผวนขึ้นๆลงๆมากในช่วงที่ผ่านมา บางช่วงดูเหมือนจะฟื้นตัวและบางช่วงก็ร่วงลงไป 


สงครามรัสเซีย-ยูเครนเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของตลาดคริปโทฯ

สถานการณ์สงครามที่เกิดขึ้น ทำให้ความต้องการ บิทคอยน์  เพิ่มขึ้นด้วย เพราะมีการบริจาคบิทคอยน์ให้กับกองทัพยูเครนในการใช้เป็นทุนสำหรับกองทัพ และล่าสุดก็มีรายงานจากสำนักข่าวเอเอพี บอกว่า รัฐบาลยูเครน จับมือกับบริษัท FTX และบริษัท Everstake ผู้ให้บริการด้านสกุลเงินดิจิทัลในการเปิดเว็บไซต์รับบริจาค คริปโทเคอร์เรนซี ที่จะถูกส่งไปสนับสนุนธนาคารกลางยูเครน ในช่วงเวลาที่รัสเซียนำกำลังรุกรานยูเครนในเวลานี้

โดยเว็บไซต์ดังกล่าวมีชื่อว่า "Aid for Ukraine" เปิดให้คนทั่วโลกบริจาคคริปโทเคอร์เรนซีได้ใน 10 สกุลเงินเช่น บิตคอยน์, อีเธอเรียม, ดอดจ์คอยน์ และอื่นๆ  และล่าสุด สามารถระดมทุนคริปโทเคอร์เรนซีนับจนถึงเวลา 09.30 น. ตามเวลาประเทศไทยได้แล้วถึง 49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ภาพจาก : AFP


ความเคลื่อนไหวของวาฬ ทำให้มีความหวังว่า บิทคอยน์จะดีดตัวในไม่ช้า

ปัจจัยอื่นๆที่มีผลต่อตลาด คริปโทเคอร์เรนซี และ ราคาบิทคอยน์ อีกหนึ่งปัจจัย นั่นก็คือการที่บรรดา วาฬ หรือ บุคคลที่เป็นผู้ถือคริปโตจำนวนมหาศาล ที่ถือเหรียญ Stablecoin ทั้ง USDT ระหว่าง 10,000 ถึง 10 ล้าน USDT ได้สะสมเหรียญเพิ่มเป็นมูลค่ารวมกว่า 1 พัน ล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยมีการสะสมเหรียญเพิ่มขึ้นกว่า 7% ในเวลาเพียงแค่ 1 เดือน  ซึ่งโดยปกติแล้วพฤติกรรมการช้อนซื้อเหรียญ Stablecoin ของวาฬ มักเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าวาฬกําลังรอจังหวะเข้าซื้อ บิทคอยน์ ในราคาที่ถูกโดยเมื่อราคบิทคอยน์อยู่ในระดับตํ่า เหรียญ Stablecoin เหล่านี้มักจะถูกนํามาช้อนซื้อ Bitcoin ซึ่งอาจทําให้ราคาของ Bitcoin ขยับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

นอกจากนี้จํานวน บิทคอยน์ ที่ไหลออกจาก Exchange ยังสอดคล้องกับทฤษฏีนี้ด้วย โดยในช่วง 26 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เห็นจํานวน Bitcoin ไหลออกจาก

Exchange มากกว่าการไหลเข้า


การยอมรับ บิทคอยน์ ของดูไบ เป็นใบเบิกทางสำคัญของคริปโทเคอร์เรนซี

ในบทวิเคราะห์ของ บิทคับ ได้เปิดเผยข้อมูลว่า Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum นายกรัฐมนตรีและผู้ปกครองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ประกาศกฎหมายฉบับใหม่เกี่ยวกับสินทรัพย์เสมือน รวมถึงการจัดตั้งหน่วยงานกํากับดูแลคริปโทฯในการประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา Sheikh Al Maktoum กล่าวว่าเขาได้ออกกฎหมายที่จะเป็นตัวกําหนดกรอบกฎหมายสําหรับคริปโทฯ ในดูไบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องนักลงทุน และ "สร้างมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับ" สําหรับการกํากับดูแลอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ Sheikh Al Maktoum ยังกล่าวอีกว่าหน่วยงานกํากับดูแลสินทรัพย์เสมือนของดูไบ หรือ VARA ที่จัดตั้งขึ้นใหม่จะมีอํานาจบังคับใช้ในการพัฒนาพิเศษและเขตปลอดอากรของเอมิเรตส์ โดยยกเว้นศูนย์การเงินระหว่างประเทศของดูไบ


การระดมทุนเพื่อลงทุนในเกม บล็อกเชน เป็นอีกก้าวสำคัญของวงการคริปโทฯ

แพลตฟอร์มซื้อขาย NFT Immutable ประกาศการระดมทุนรอบ Series C มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ นําโดย Temasek บริษัทการลงทุนของรัฐสิงคโปร์ รวมถึง Animoca Brands และ Tencent ด้วย อีกทั้งยังมีการลงทุนเพิ่มเติมโดย ParaFi Capital, Princeville Capital และ Arrington Capital รวมถึงจากผู้สนับสนุนเดิม อย่าง King River Capital, Prosus Ventures, AirTree Ventures, Declaration Partners ฯลฯ ทําให้บริษัทมีมูลค่าเท่ากับ 2.5 พันล้านดอลลาร์

โดย Immutable ตั้งใจที่จะนําทุนนี้ไปใช้ในการพัฒนา Immutable X layer-2 สําหรับ NFTs บนเครือข่าย Ethereum และ Immutable Gaming Studio ซึ่งรวมถึง เกม Gods Unchained และ Guild of Guardians ที่เป็นเกมชูโรงของ Immutable X

ภาพจาก :  บิทคับ


ราคาบิทคอยน์สัปดาห์นี้ ยังมีโอกาสเข้าสู่สภาวะตลาดหมี  

ในบทวิเคราะห์ของ บิทคับ ระบุว่า ราคา Bitcoin (BTC) ทํารูปแบบกราฟแท่งเทียนแบบ Doji หรือมีลักษณะไส้เทียนยาวในวันที่ 12 มี.ค. สะท้อนถึงการยังไม่เลือกทางของราคา โดยราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ มีแนวต้านคือเส้นค่าเฉลี่ย 20 วันแบบเอ็กซ์โปเนนเชียล (EMA-20) ที่ราคา 39,810 ดอลลาร์ (~1,330,000 บาท) และแนวรับที่ระดับราคา 37,000 ดอลลาร์  (~1,236,000 บาท)

หากราคาสามารถทะลุกรอบแนวต้านที่เส้นค่าเฉลี่ย 50 วันแบบง่าย(SMA-50) ที่ราคา 39,978 ดอลลาร์  (~1,335,000 บาท) ได้ ราคาจะมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับราคา 42,600 ดอลลาร์ (~1,423,000 บาท) และ 45,400 ดอลลาร์  (~1,516,000 บาท) ตามลําดับ

ในทางกลับกันหากราคาหลุดแนวรับที่ระดับราคา 37,000 ดอลลาร์ (~1,236,000 บาท) จะถือว่าเข้าสู่สภาวะตลาดหมี (ตลาดขาลง) พร้อมทั้งจะตามมาด้วยแรงขายตามปัจจัยเชิงเทคนิค และราคามีโอกาสปรับฐานลงถึงระดับแนวรับถัดไปที่ราคา 30,000 ดอลลาร์  (~1,002,000 บาท)


นอกจากสถานการณ์สงครามที่จะส่งผลต่อความต้องการคริปโทฯแล้ว ยังต้องติดตามผลกระทบที่มีต่อราคาพลังงาน เศรษฐกิจ รวมถึงการตัดสินใจของธนาคารกลางของประเทศต่างๆในการเลือกดำเนินนโยบายทางการเงินไปทางไหนเพื่อปกป้องเศรษฐกิจของตัวเอง  ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ก็มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนในการบริหารพอร์ตที่มีอยู่ในมือด้วยเช่นกัน ดังนั้น บิทคอยน์ จะมีโอกาสเข้าสู่สภาวะ "ตลาดหมี" หรือ"ตลาดกระทิง"อีกครั้ง ยังต้องคอยลุ้นกันวันต่อวันเลยก็ว่าได้ .....

ภาพจาก : AFP 


อ้างอิงข้อมูล : บิทคับออนไลน์ ,siaim blockchain

ภาพประกอบ: AFP 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง