OECD คาด 'เศรษฐกิจโลก' ชะลอตัว ผลพวงเงินเฟ้อ-นโยบายการเงินเข้มงวด
ปารีส, 27 ก.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (26 ก.ย.) องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะยังคงซบเซาในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 ก่อนจะชะลอตัวลงเพิ่มเติมในปี 2023 โดยมีการเติบโตรายปีเพียงร้อยละ 2.2
รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจ (Economic Outlook) ขององค์การฯ ระบุว่าปัจจัยหลักที่ทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวคือนโยบายการเงินที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในภาพรวม ซึ่งได้แรงหนุนจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงเกินกรอบเป้าหมายการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) รายปีในสหรัฐฯ จะชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วอยู่ที่ร้อยละ 0.5 ในปี 2023 ส่วนในพื้นที่ยูโรโซนจะอยู่ที่ร้อยละ 0.25 พร้อมความเสี่ยงผลผลิตลดลงช่วงฤดูหนาวในหลายประเทศของภูมิภาคยุโรปองค์การฯ ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายประเทศ ภาวะขาดแคลนเชื้อเพลิงที่รุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะก๊าซ อาจส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของยุโรปตกต่ำลงอีก 1.25 จุด ในปี 2023 และทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1.5 จุด ด้านจีนยังคงมีอัตราเงินเฟ้อในระดับค่อนข้างต่ำและทรงตัวอัตราเงินเฟ้อราคาผู้บริโภคมีแนวโน้มทยอยลดลง หากการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น อัตราเงินเฟ้อราคาพลังงานลดลง และการกระชับมาตรการทางการเงินโดยธนาคารกลางส่วนใหญ่มีผลบังคับใช้มากขึ้นอย่างไรก็ดี องค์การฯ คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อรายปีในปี 2023 จะยังคงสูงเกินกรอบเป้าหมายในเกือบทุกประเทศ