SCBS ควัก 1.78 หมื่นล้าน ประกาศซื้อหุ้น Bitkub จำนวน 51%
“กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” เดินหน้ายุทธศาสตร์ยานแม่ ประกาศส่ง SCBS เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน “บิทคับ ออนไลน์” สัดส่วน 51% มูลค่า 1.78 หมื่นล้านบาท จากมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท พร้อมร่วมเป็นพันธมิตรวางรากฐานธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล มุ่งสร้างการเติบโตระยะยาว เตรียมพร้อมสู่โลกการเงินอนาคต
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” เดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ยานแม่ มุ่งสร้างการเติบโตระยะยาว และวางรากฐานธุรกิจการเงินแห่งโลกอนาคต รับบริบทโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ล่าสุดประกาศเข้าลงทุนใน “บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด” (Bitkub Online Co., Ltd.) ผู้นำด้านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทย (Digital Asset Exchange) ผ่านการเข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 51% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดจากบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (Bitkub Capital Group Holdings Co., Ltd.) คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 17,850 ล้านบาท
ทั้งนี้ การเข้าทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นจะอยู่ภายใต้การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยมีเงื่อนไขว่าผลการสอบทานธุรกิจ (Due Diligence) ของ Bitkub ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญต้องเป็นที่น่าพอใจ และคู่สัญญาได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้นครบถ้วน โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 1 ของปี 2565
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลหนึ่งในธุรกิจการเงินแห่งโลกอนาคตมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีโอกาสเติบโตในระยะยาว การที่ “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” เข้าไปลงทุนใน “บิทคับ ออนไลน์” (Bitkub Online Co., Ltd.) ซึ่งให้บริการแพลตฟอร์มด้านการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทยที่มีความน่าเชื่อถือ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จะช่วยให้ “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” สามารถสร้างคุณค่าใหม่ที่สามารถเติบโตในระยะยาวไปกับโลกใหม่ได้ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ยานแม่ SCBX ในการยกระดับสู่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงิน สามารถตอบสนองความต้องการใหม่ของผู้บริโภค และสามารถเข้าสู่สนามการแข่งขันแบบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยเร็วในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ การเข้าลงทุนใน Bitkub “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” ได้ขับเคลื่อนผ่านบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBS ในการเข้าซื้อหุ้นสามัญและเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ “บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด” (Bitkub Online Co., Ltd.) ผู้นำด้านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทย (Digital Asset Exchange) จาก “บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด” ในสัดส่วน 51% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 17,850 ล้านบาท นอกจากการลงทุนแล้วยังมีแผนที่จะพัฒนาธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลด้านต่างๆ ผ่านโมเดลทางธุรกิจรูปแบบใหม่ร่วมกับ Bitkub ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว และวางรากฐานในการเข้าสู่โลกการเงินแห่งอนาคตต่อไป
นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา Group CEO ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า Bitkub ได้เดินมาถึงจุดที่เราได้กลายเป็นโครงสร้างสำคัญของเศรษฐกิจในอนาคตของประเทศไทย หรือที่เรียกว่า Digital Economy ต่อจากนี้ Bitkub ไม่ได้เป็นเพียงสตาร์ทอัพอีกต่อไป แต่กำลังจะก้าวมาเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อวงการการเงิน 3.0 ของประเทศไทย ในตอนนี้เราได้พา Bitkub มาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญมาก และเพื่อที่จะนำ Bitkub ให้ก้าวไปสู่ระดับโลก พวกเราต้องการพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งมาเป็นกำลังเสริมให้ไปถึงได้เร็วขึ้นอย่างยั่งยืน นั่นเป็นเหตุผลที่เราจับมือร่วมกับ SCBS”
“SCB เป็นสถาบันทางการเงินที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่า 114 ปี นอกจากนี้ยังมียุทธศาสตร์ในการที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริษัทเป็น SCBX เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของธุรกิจประเภทใหม่ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ Bitkub และ กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ มีการแชร์เป้าหมาย Vision ที่เหมือนกันว่า Digital Asset มีความสำคัญต่อการพัฒนาของเศรษฐกิจต่อประเทศไทยในระยะยาว เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าเราสามารถผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไปสู่โลกอนาคต เป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยีในระดับภูมิภาคได้ และเป็นโอกาสสำคัญที่จะสร้าง National Champion ใหม่ให้กับประเทศไทย” นายจิรายุส กล่าวเสริม
“ในการร่วมมือกันครั้งนี้ การที่ “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” โดยบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เข้ามาซื้อหุ้นทั้งหมด 51% ของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ที่จำนวน 17,850 ล้านบาท ที่มูลค่าบริษัททั้งหมด 35,000 ล้านบาท จากบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งอันนี้เป็นการประทับตรา “ยูนิคอร์น” อีก 1 ตัวให้คนไทยทุก ๆ คนได้ภาคภูมิใจ” นายจิรายุส กล่าวทิ้งท้าย