รีเซต

เช็กมาตรการคุมโควิด เปิดเทอม 63 โรงเรียนในเขตกทม.และมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ

เช็กมาตรการคุมโควิด เปิดเทอม 63 โรงเรียนในเขตกทม.และมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
TNN ช่อง16
25 ตุลาคม 2564 ( 06:32 )
178
เช็กมาตรการคุมโควิด เปิดเทอม 63 โรงเรียนในเขตกทม.และมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ

สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เปิดเผยรายชื่อ 63 โรงเรียนแรกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดการเรียนการสอนได้ โดยขอให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด


สำหรับรายชื่อโรงเรียนดังกล่าว ได้แก่


เขตคลองเตย


1. โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่

2. โรงเรียนนานาชาติดิแอปเปิ้ลทรี

3. โรงเรียนนานาชาติ บี เอส บี บริติช ไพรแมรี่

4. โรงเรียนอนุบาลนานาชาติเยาวรักษ์ (คิตตี้แคร์)


เขตคลองสาน


5. โรงเรียนนานาชาติอินเตอร์เนชั่นแนลไพโอเนียร์ส

6. โรงเรียนไทยซิกข์นานาชาติ กรุงเทพ


เขตคลองสามวา


7. โรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา เออร์ลี่ เยียรส์ แคมปัส


เขตคันนายาว


8. โรงเรียนเตรียมวิทย์พัฒนา


เขตจตุจักร


9. โรงเรียนนานาชาติสตีเฟ่นส์


เขตดุสิต


10. วชิราวุธวิทยาลัย

11. โรงเรียนนานาชาติ เซนต์ แอนดรูว์ส ดุสิต


เขตดอนเมือง


12. โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ กรุงเทพฯ


เขตตลิ่งชัน


13. โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ เค็นซิงตัน


เขตบางกะปิ


14. โรงเรียนนานาชาติแอ๊ดเวนต์รามคำแหง


เขตบางเขน


15. โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์


เขตบางขุนเทียน


16. โรงเรียนนานาชาติรอยส์ รอยัล


เขตบางแค


17. โรงเรียนกสิณธรอาคาเดมี่

18. โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า


เขตบางคอแหลม


19. โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ


เขตบางซื่อ


20. โรงเรียนพิริยะโยธิน


เขตบางนา


21. โรงเรียนประชาคมนานาชาติ

22. โรงเรียนนานาชาติเบิร์คลีย์

23. โรงเรียนบางกอกพัฒนา

24. โรงเรียนนานาชาติ มอนเตสซอรี่ อะแคเดอมี่ แบงค็อก


เขตบางรัก


25. โรงเรียนนานาชาติ เซนต์ แอนดรูว์ส สาทร


เขตบึงกุ่ม


26. โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ คินเดอร์แบร์ อคาเดมี


เขตประเวศ

27. โรงเรียนนานาชาติ บีคอนเฮาส์ แย้มสอาด

28. โรงเรียนนานาชาติชาร์เตอร์


เขตพญาไท


29. โรงเรียนอาร์บิสนานาชาติ


เขตภาษีเจริญ


30. โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ธนบุรี

31. โรงเรียนนานาชาติบริติชโคลัมเบีย


เขตมีนบุรี


32. โรงเรียนประถมนานาชาติบรอมส์โกรฟ

33. โรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา

34. โรงเรียนนานาชาติ บรอมส์โกรฟ


เขตยานนาวา


35. โรงเรียนอนุบาลบ้านสานฝัน

36. โรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจกรุงเทพ

37. โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ ลา เปติท อีโคล แบงค็อก


เขตลาดกระบัง


38. โรงเรียนมาเรียลัย


เขตลาดพร้าว


39. โรงเรียนสันติสุขวิทยา


เขตวังทองหลาง


40. โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพฯ

41. โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ เพรพ มอนเตสซอรี่

42. โรงเรียนฝรั่งเศสนานาชาติ กรุงเทพ

43. โรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์-พระราม 9


เขตวัฒนา


44. โรงเรียนสี่พี่น้องนานาชาติ

45. โรงเรียนนานาชาติ บางกอก พรีแพราธอรีแอนด์เซ็กเคินเดอรี่

46. โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ เอบีซี แพทเวยส์

47. โรงเรียนนานาชาติ ไบร์ทสกายส์

48. โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ แอนนาเบลส์

49. โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ คิดส์ คิงดอม

50. โรงเรียนนานาชาตินิสท์

51. โรงเรียน ดิ อเมริกัน สคูล ออฟ แบงค็อก สุขุมวิท

52. โรงเรียนนานาชาติ เซนต์ แอนดรูร์ส กรุงเทพฯ

53. โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ คิดส์ อะคาเดมี่

54. โรงเรียนนานาชาติ ดิเออร์ลี่เลิร์นนิ่งเซ็นเตอร์


เขตสะพานสูง


55. โรงเรียนนานาชาติ เวลลิงตันคอลเลจ กรุงเทพ


เขตสาทร


56. โรงเรียนนานาชาติ เรนทรี


เขตสวนหลวง


57. โรงเรียนนานาชาติเซ็นจูเรี่ยน กรุงเทพฯ

58. โรงเรียนนานาชาติคริสเตียน กรุงเทพฯ


เขตห้วยขวาง


59. โรงเรียนนานาชาติ เดอะรีเจ้นท์ กรุงเทพ

60. โรงเรียนนานาชาติ โชรส์เบอรีกรุงเทพ ซิตี้แคมปัส

61. โรงเรียนอนุบาลนานานชาติ เพรพ

62. โรงเรียนสมาคมไทย-ญี่ปุ่น

63. โรงเรียนนานาชาติ เคไอเอส





อย่างไรก็ตาม การจะเปิดโรงเรียนได้ ต้องผ่านเกณฑ์การประเมินหลายด้าน เช่น ด้านกายภาพ ด้านการมีส่วนร่วม ด้านการประเมินความพร้อมสู่การปฏิบัติ สำหรับสถานศึกษา ครู-บุคลากรต้องฉีดวัคซีนครบโดสไม่น้อยกว่า 85% ในขณะที่นักเรียน-ผู้ปกครอง ควรได้รับวัคซีนตามมาตรการที่กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขกำหนด


นอกจากนี้ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ระบุถึงความพร้อมในการเปิดเรียนในวันที่ 1 พ.ย.นี้ โดยระบุว่า การเปิดเทอม 1 พ.ย.ยังไม่เปิดพร้อมกันทั่วประเทศ แต่จะเป็นการพิจารณาหลายพื้นที่ จากปัจจัยการแพร่ระบาด สภาพแวดล้อม และการรับวัคซีนโควิด


ทั้งนี้ ในระหว่างการเปิดภาคเรียนไปแล้ว ต้องปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด และสามารถจัดการเรียนการสอนแบบ Onsite หรือ Online หรือแบบผสมผสาน (Hybrid) ก็ได้ โดยแต่ละห้องเรียนไม่เกิน 25 คน เว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร


ในวันที่ 1 พ.ย. 2564 นี้ มหาวิทยาลัยจะทยอยเปิดการเรียนการสอนแบบ On-site 


ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ อว.ได้พร้อมให้มหาวิทยาลัยทั่วประเทศทยอย เปิดการเรียนการสอนแบบ On-site หรือเรียนในห้องเรียนปกติได้แล้วสำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษา โดยมีมาตรการป้องกันอย่างรัดกุม หลังจากที่สถานการณ์การ แพร่ระบาดของโรคโควิด–19 เริ่มคลี่คลายขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และรัฐบาลได้ประกาศนโยบายเปิดประเทศ  


โดยขณะนี้ อว.ได้ระดมฉีดวัคซีนให้กับอาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาในสังกัดมากกว่า 1 ล้านโดสแล้ว เริ่มฉีดมาตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 2564 กว่า 4 เดือนแล้ว โดยในวันที่ 15 ต.ค.64 นี้ ได้ฉีดรวมกัน 1,000,766 โดสแล้ว แบ่งเป็นฉีดใน กทม.และปริมณฑล จำนวน 763,519 โดส และฉีดในต่างจังหวัด จำนวน 237,247 โดส ผ่านศูนย์ฉีดวัคซีนในสถาบันอุดมศึกษากระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งใน กทม.และปริมณฑล จำนวน 11 แห่ง และต่างจังหวัด 12 แห่ง ได้แก่ ภาคเหนือ 3 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 แห่ง ภาคกลาง 1 แห่ง ภาคตะวันออก 1 แห่ง และภาคใต้ 3 แห่ง รวมทั้ง อว. ได้สนับสนุนบุคลากรให้บริการวัคซีนตามจุดฉีดของกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานอื่นดีกกว่า 100 แห่งด้วย


หน่วยฉีดวัคซีนของ อว.ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 482,655 คน แบ่งเป็นบุคลากรของสถาบันอุดมศึกษา 113,342 คน นักศึกษา 168,930 คน และประชาชนทั่วไป 200,383 คน และฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 280,864 คน แบ่งเป็นบุคลากรของสถาบันอุดมศึกษา 59,654 คน นักศึกษา 104,004 คน และประชาชนทั่วไป 117,206 คน ส่วนหน่วยวัคซีนในต่างจังหวัด ได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 133,847 คน แบ่งเป็นบุคลากรของสถาบันอุดมศึกษา 83,685 คน นักศึกษา 50,162 คน และได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 จำนวน 103,400 คน แบ่งเป็นบุคลากรของสถาบันอุดมศึกษา 54,162 คน และนักศึกษา 49,238 คน ทั้งนี้นิสิตนักศึกษาทั่วประเทศยังได้รับวัคซีนผ่านทางช่องทางต่างๆ ด้วย



การให้บริการฉีดวัคซีนดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุผล ซึ่งผลการฉีดวัคซีนของ อว. อย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้เกินกว่า 1 ล้านโดส ช่วยสร้างความมั่นใจในการให้สถาบันอุดมศึกษา ซึ่งอาจารย์และบุคลากรส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนเกือบครบ 100% แล้ว และล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรีและที่ประชุม ศบค. ได้มอบให้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวง อว. และสาธารณสุข ดำเนินการตามแผนให้วัคซีนและสนับสนุนวัคซีนสำหรับนักเรียนและนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นในการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อ 


โดยทาง อว. ได้ประเมินสถานการณ์แล้ว พร้อมจะให้มหาวิทยาลัยทยอยเปิดการเรียนการสอนแบบ On-site ตามความพร้อมของแต่ละแห่ง ในวันที่ 1 พ.ย. 2564 นี้ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้ประกาศเปิดประเทศในเดือน พ.ย. ซึ่ง อว. และที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ทปอ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ ทปอ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ได้ร่วมกันกำหนดมาตรการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาดำเนินการเปิดเรียนอย่างปลอดภัยและให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิดในพื้นที่ต่อไป 



สำหรับ 7 มาตรการหลัก หากต้องเปิดเรียน ,สถานศึกษาประเมินความพร้อมเปิดเรียนผ่าน Thai Stop covid และรายงานการติดตามประเมินผล การทำกิจกรรมร่วมกันในรูปแบบ Small Bubble (เน้นกลุ่มเล็ก) ,การจัดระบบให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลและหลักโภชนาการ , การจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมให้ได้เกณฑ์มาตรฐาน , จัดให้มี School isolation แผนเผชิญเหตุ , ควบคุมดูแลการเดินทางไปกลับของนักเรียน เช่น รถรับส่งรถส่วนบุคคล และพาหนะโดยสารสาธารณะ , จัดให้มี School Pass สำหรับนักเรียนครูและบุคลากรในสถานศึกษา ประกอบด้วย ข้อมูลผลการประเมินของครู และนักเรียนผลการตรวจ ATK ภายใน 7 วัน ประวัติการรับวัคซีน



ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง