รีเซต

สธ.แจง ชายสัญชาติอินเดีย ติดโควิด-19 ขณะขอใบอนุญาตทำงานที่กระบี่

สธ.แจง ชายสัญชาติอินเดีย ติดโควิด-19 ขณะขอใบอนุญาตทำงานที่กระบี่
มติชน
7 พฤศจิกายน 2563 ( 16:44 )
131

วันที่ 7 พฤศจิกายน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 ซึ่งเป็นชายสัญชาติอินเดีย อายุ 37 ปี ที่จังหวัดกระบี่ นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่า หลังจากได้รับรายงาน ได้มอบหมายให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช (สคร.11 จ.นครศรีธรรมราช) ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบสวนโรคและตรวจสอบรายละเอียดในกรณีดังกล่าวทันที

 

นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับกรณีผู้ติดเชื้อรายนี้ เป็นชาย อายุ 37 ปี สัญชาติอินเดีย พักอยู่ที่จังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาได้ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลในจังหวัดกระบี่ เพื่อต่อใบอนุญาตทำงานในไทยโดยไม่มีอาการป่วยใดๆ และในวันที่ 5 พฤศจิกายน ทางโรงพยาบาลได้รายงานผลการตรวจ RT-PCR ซึ่งผลยังไม่แน่ชัด ต่อมาวันที่ 6 พฤศจิกายน ได้รับผลการตรวจยืนยันพบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) จากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11 จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงนำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกระบี่ และได้เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งและเลือดเพื่อตรวจภูมิคุ้มกันที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

 

นพ.โอภาส กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าผู้ป่วยรายนี้อาศัยที่จังหวัดกระบี่มาระยะหนึ่งแล้ว ประกอบอาชีพทำร้านอาหาร สอบถามประวัติการเดินทาง พบมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เป็นบุคคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาล 7 ราย ผู้สัมผัสร่วมบ้าน 3 ราย และได้เร่งประสานงานกับหน่วยงานสาธารณสุขในจังหวัด เพื่อสอบสวนสถานที่ต่างๆ จึงพบผู้สัมผัสเพิ่มอีก 10 ราย รวมเป็น 20 ราย และได้ทำการค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติมในสถานที่ที่ผู้ป่วยเดินทางไปในระยะ 14 วันที่ผ่านมา เพื่อทำการเฝ้าระวังต่อไป

 

นพ.โอภาส กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จะดำเนินการตามขั้นตอนการสอบสวนและมาตรการป้องกันควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่และประชาชนชาวไทยทุกคน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชน การ์ดอย่าตก คงมาตรการสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ตระหนักแต่ไม่ตระหนก ขอให้รับฟังข่าวสารทางการจากกระทรวงสาธารณสุขและจังหวัดอย่างต่อเนื่อง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

ข่าวที่เกี่ยวข้อง