กลุ่ม STA เผยทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตเป็น A แนวโน้ม Stable
#STA #ทันหุ้น-“กลุ่มบริษัทศรีตรัง” ตอกย้ำศักยภาพธุรกิจและฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง หลังได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตเรทติ้งจากทริสเรทติ้งเป็น “A” แนวโน้ม “Stable” (จากเดิม A- แนวโน้ม Positive) วางเป้าหมายเพิ่มปริมาณการขายสินค้าและส่วนแบ่งในตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง
นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STAเปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้กลุ่มบริษัทศรีตรังฯ ได้แก่ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA และบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เป็น A แนวโน้ม Stable (จากเดิม A- แนวโน้ม Positive) ซึ่งนับเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของกลุ่มบริษัทศรีตรังฯ ในการเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ดังกล่าว ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของภาพรวมอุตสาหกรรมยางธรรมชาติและอุตสาหกรรมถุงมือยาง ศักยภาพการดำเนินธุรกิจและขีดความสามารถการแข่งขันที่ดีของกลุ่มบริษัทศรีตรังฯ การบริหารจัดการเพื่อรับมือกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฐานะการเงินที่มั่นคงแข็งแกร่ง ตลอดจนความสามารถในการชำระคืนเงินกู้และดอกเบี้ยได้ตามกำหนด
ขณะที่ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทศรีตรังฯ ถือว่ามีความแข็งแกร่งจากปริมาณการขายสินค้าที่เพิ่มขึ้น โดยในไตรมาส 1/2565 บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี มีรายได้จากการขายและบริการรวม 28,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,509 ล้านบาท รวมถึงมีปริมาณการขายยางรวมเกือบ 3.49 แสนตัน เติบโต 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งดีกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม ส่วนบมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) มีรายได้จากการขาย 7,119 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,052 ล้านบาท โดยมีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนถึงความสามารถในการขยายตลาดใหม่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเพิ่มยอดขาย ปรับเปลี่ยนสายการผลิตมุ่งเน้นสินค้าที่มีอัตรามาร์จิ้นเพิ่มขึ้น และความต้องการใช้ถุงมือยางที่ยังแข็งแกร่ง
“กลุ่มศรีตรังฯ มีความยินดีที่ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตเรทติ้งและหุ้นกู้จากทริสเรทติ้งในครั้งนี้ พร้อมทั้งมุ่งมั่นที่จะผลักดันปริมาณการขายสินค้าและเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดโลก ทั้งผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติและถุงมือยางอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินงานและผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น” นายวีรสิทธิ์ กล่าว