STAขายดีเล็งปรับเป้า ธุรกิจกัญชงคืบวีคหน้า
ทันหุ้น-STA ชูอุตสาหกรรมรถยนต์ฟื้นตัวแรง ดันคำสั่งซื้อทะลักยาวไตรมาส 4/2564 เตรียมปรับเพิ่มเป้าปีนี้ยอดขายทะลุ 1.2 ล้านตัน หลังประกาศงบไตรมาส2 ขณะที่แผนการปลูกกัญชงคืบหน้าในสัปดาห์หน้า โบรกมองบวกผลประกอบการเด่น กำไรปกติยังพุ่งต่อปี 2565 สร้างนิวไฮอีก ระบุกำไรหมื่นล้านบาทยาวถึงปี 2567 แนะซื้อ เป้าหมาย 61 บาท
นางสาวทิพย์วดี สุดเวหา ผู้จัดการกลุ่มงานนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด(มหาชน) หรือSTA เปิดเผยว่า ความต้องการใช้ยางธรรมชาติยังเข้ามาสูงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเข้ามายาวจนถึงไตรมาส 4/2564 แล้ว ซึ่งความต้องการดังกล่าวมาจากทั่วโลกทั้งจีน ประเทศในยุโรป รวมถึงประเทศสหรัฐ ที่คลายล็อคดาวน์ ขณะที่ราคาขายก็อยู่ในระดับที่ดี และดีกว่าราคาขายของตลาดยางไซคอม (SICOM)ประเทศสิงคโปร์
สาเหตุที่ความต้องการยางธรรมชาติมีจำนวนมาก ปัจจัยหลักส่วนหนึ่งมาจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่กลับมาฟื้นตัว ซึ่งยางธรรมชาติประมาณ80% ทั่วโลกได้นำไปใช้ผลิตล้อรถยนต์ ซึ่งบริษัททัเป็นผู้ผลิตล้อรถยนต์เป็นลูกค้าหลัก ทั้งในประเทศเและลูกค้าต่างประเทศหลายราย ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการส่งออกไปต่างประเทศ 80-85% ส่วนที่เหลือจะเป็นการขายในประเทศ
**ปรับเพิ่มเป้ายอดขาย
ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะปรับเพิ่มเป้ายอดขายธรรมชาติในปีนี้ โดยจะดำเนินการหลังจากประกาศงบไตรมาส 2/2564 ออกมาแล้ว ซึ่งเป้าหมายปริมาณการขายที่ตั้งไว้เดิมอยู่ที่ 1.2 ล้านตัน ซึ่งจะปรับเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่ในปี2563 บริษัทมีปริมาณการขายผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติอยู่ที่ 1.03 ล้านตัน ดังนั้นจึงคาดว่าผลประกอบการในปีนี้ของบริษัทจะมีการเติบโต ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงราคาขายที่ดีขึ้น
นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้อีกประมาณ 50% ของรายได้รวมจะมาจากบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ซึ่งเป็นบริษัทย่อยซึ่งที่ผ่านมาก็มีผลประกอบการเติบโตอย่างมาก จากความต้องการใช้ถุงมือยางที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง
@จับตาคืบปลูกกัญชง
สำหรับแผนการปลูกต้นกัญชง นางสาวทิพย์วดี คาดว่าจะมีความคืบหน้าในสัปดาห์หน้า ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ก็มองว่าธุรกิจนี้จะเป็นสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทอีกส่วน ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะทำธุรกิจต้นน้ำ รวมถึงมีโอกาสไปในระดับกลางน้ำด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้บริษัทมีที่ดินทั้งหมด 4.5 หมื่นไร่ และใช้ปลูกยางธรรมชาติแล้ว 3.5 หมื่นไร่ ส่วนอีกประมาณ 1 หมื่นไร่นั้น มีการปลูกพืชต่างๆ แต่ก็สามารถนำที่ดินดังกล่าวบางส่วนมาปลูกกัญชงได้ ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอใบอนุญาตจากองค์การอาหารและยา หรืออย.
นางสาวทิพย์วดี กล่าวถึงนโยบายการจ่ายเงินปันผลของ STA ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทก็พยายามที่จะจ่ายทุกไตรมาส เหมือนกับSTGT เพื่อให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น แต่การที่บริษัทไม่มีการปรับนโยบาย เพราะบริษัทต้องสำรองเงินสดไว้ เนื่องจากจะต้องซื้อวัสถุดิบจากเกษตรกร ซึ่งจำเป็นต้องชำระด้วยเงินสด
**โบรกฯแนะนำซื้อ
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า(ประเทศไทย) จำกัด แนะนำซื้อหุ้น STA โดยให้ราคาเป้าหมายที่61 บาทต่อหุ้น ซึ่งมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ STA จากรอบการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ และการเปลี่ยนผ่านไปยังรถยนต์ไฟฟ้า หรือEV Car คาดหนุนธุรกิจยางธรรมชาติเข้าสู่รอบการเติบโต ขณะที่กำไรจากธุรกิจถึงมือยางยังทรงตัวระดับสูงต่อ
นอกจากนี้ในระยะยาว คาดกำไรปกติในปี2565 จะทำระดับสูงสุดใหม่ และจะรักษาระดับกำไรหลักหมื่นล้านบาทได้ถึงปี 2567 เป็นอย่างน้อย จากอุปสงค์ยางธรรมชาติที่กลับเข้าสู่ช่วงวัฏจักรขาขึ้นอย่างเต็มตัว รวมถึงถุงมือยางยังมีอุปสงค์ที่ดีต่อเนื่อง ซึ่งประมาณการดังกล่าวยังมี upside risk จากกำลังการผลิตยางแท่งใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นราว 9% ในปี2565 และกำลังการผลิตน้ำยางข้นที่จะเพิ่มขึ้นราว 39% ในปี2566 ขณะที่ธุรกิจใหม่เช่นธุรกิจกัญชง ฝ่ายวิจัยยังไม่รวมในประมาณการ
ส่วนราคาหุ้น STA ซื้อขายด้วยค่าพี/อี เรโชไม่สูง พร้อมผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 9.6%