ทนายดัง ชี้ผวจ.ห้ามขายเหล้าไม่ได้ ต้องยึดคำสั่งรบ. แนะนักดื่มฟ้องศาล
ทนายดัง ชี้ผวจ.ห้ามขายเหล้า ไม่ได้ ออกประกาศทับซ้อน ต้องยึดคำสั่งรัฐบาล ซัดชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่ชอบธรรม แนะนักดื่มฟ้องศาลปกครอง
วันที่ 3 พ.ค. หลังจากศบค.ออกมาตรการผ่อนปรน 6 กิจกรรมในช่วงโควิด หลังยอดผู้ติดเชื้อลดลงจนเหลือหลักเดียวมาต่อเนื่อง โดยหนึ่งในกิจกรรมที่ปลดล็อกนั่นคือ เปิดให้ขายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ต้องเป็นลักษณะซื้อไปดื่มที่บ้านเท่านั้น ห้ามนั่งดื่มที่ร้านอาหาร
โดยมีทั้งจังหวัดที่เปิดให้ขายตามประกาศของศบค. แต่มีบางจังหวัดที่ยังคงห้ามจำหน่ายอยู่ ทั้งจ.ปทุมธานี จ.พิษณุโลก จ.เพชรบุรี จ.นครพนม และจ.บุรีรัมย์
ล่าสุดนายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ทนายความ เปิดเผยถึงประเด็นนี้ว่า หลังจากเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 6 ประเด็นร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ซึ่งจำหน่ายสุรา โดบให้เปิดได้แต่ห้ามการบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน ซึ่งประเด็นดังกล่าว มีบางจังหวัดออกประกาศทับซ้อนขัดกับประกาศราชกิจจานุเบกษาฉบับนี้คือ ออกประกาศห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 31 พ.ค.
จากคำสั่งของบางจังหวัดที่ยังห้ามขายสุรา ส่งผลทำให้ผู้ประกอบการ ร้านค้า และประชาชนสับสนว่า คำสั่งที่ทางจังหวัดออกประกาศทับซ้อน สามารถทำได้หรือไม่ โดยกรณีนี้ส่วนตัวมองว่าไม่สามารถทำได้ เพราะขัดกัน ต้องเอาคำสั่งของรัฐบาลกลางเป็นที่ตั้ง เว้นแต่มีเหตุอันจำเป็นที่ต้องควบคุมต่อ แต่แท้จริงแล้วการที่รัฐบาลออกประกาศให้สามารถขายสุราได้ แต่ไม่ให้นั่งบริโภคในร้าน ถือว่าเป็นมาตรการที่สมเหตุสมผล และจังหวัดอื่นๆ ก็ปฏิบัติตาม
นายบุญถาวร กล่าวต่อว่า ดังนั้นการที่ผู้ว่าฯ บางจังหวัด ออกประกาศทับซ้อน ขัดต่อคำสั่งรัฐบาล ถือเป็นคำสั่งไม่ชอบธรรมคือ ชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่ชอบธรรม ถึงแม้ว่าชอบด้วยกฎหมายก็ตาม แต่ก็เป็นกฎหมายรอง คำสั่งของรัฐบาลต้องใหญ่กว่า
“หากประชาชนได้รับผลกระทบจากประกาศดังกล่าว สามารถยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวต่อผู้ว่าฯ ได้ ถ้าผู้ว่าฯ ไม่เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว สามารถที่จะไปฟ้องต่อศาลปกครองได้ และถ้าผู้ว่าฯ ยังเพิกเฉย ถือว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งนี้ เนื่องจากทุกจังหวัดมีการผ่อนปรนตามมาตรการของรัฐบาล เมื่อจังหวัดมาออกคำสั่งดังกล่าวนี้ จึงอาจส่งผลขัดต่อความรู้สึกของประชาชน”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง