ผลการวิจัยเผย "การปลูกผักกินเอง" ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น !?

The University of Colorado Boulder หรือมหาวิทยาลัยโคโลราโด โบลเดอร์ ได้ทำการวิจัยโดยการติดตามดูผู้ใหญ่จำนวน 300 คนที่ไม่เคยปลูกผักไว้กินเองมาก่อน พบว่าผู้ที่เริ่มทำสวนจะเริ่มกินไฟเบอร์มากขึ้น มีการออกกำลังกายมากกว่าเดิม และมีความวิตกกังวลที่ลดน้อยลงเป็นอย่างมาก

วิจัยอย่างไร ?

• ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ที่เลือกนำมาทดสอบในครั้งนี้มีอายุประมาณ 41 ปี โดย 1 ใน 3 ถูกระบุว่าเป็นละติน และมากกว่าครึ่งเป็นผู้ที่มีรายได้น้อย
  
  
• การวิจัยได้แบ่งกลุ่มผู้ทดสอบออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งให้เริ่มทำสวนในชุมชน อีกกลุ่มให้เป็นกลุ่มช่วยจัดการ โดยหลังผ่านไป 1 ปี จึงจะเริ่มให้ทำสวน
  
  
• กลุ่มที่ได้รับหน้าที่ทำสวนจะได้รับแปลงสวนฟรี เมล็ดพันธุ์เริ่มต้น ต้นกล้า และได้เข้าคลาสเรียนสำหรับทำสวนเบื้องต้น
  
  
• เพื่อติดตามการศึกษา ทั้ง 2 กลุ่มจะได้เข้าทำแบบทดสอบเพื่อดูเกี่ยวกับความเข้าใจเรื่องของการบริโภคและสุขภาพจิตของพวกเขาทั้งหมด นอกจากนี้ผู้ร่วมทดสอบทั้งหมดจะได้รับการตรวจวัดร่างกายเป็นระยะ ๆ และติดเครื่องตรวจสอบการทำกิจกรรมอยู่เสมอ

ผลการวิจัยเป็นอย่างไร ?

• ผลการวิจัยหนึ่งพบว่าการทำสวนสามารถช่วยบำบัดได้อย่างมาก สำหรับผู้ที่พยายามเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง เพื่อพัฒนาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น ข้อดีของมันคือเราจะไม่รู้สึกว่ามันเป็นงานที่น่าเบื่อ แต่เป็นสิ่งที่เราจะชอบทำ และมันมีค่าใช้จ่ายที่ไม่มากอีกด้วย
  
  
• การศึกษาพบว่าผู้เริ่มทำสวน จะรับประทานไฟเบอร์โดยเฉลี่ย 1.4 กรัมต่อวัน มากกว่าอีกกลุ่มที่ไม่ได้ทำสวน แม้ว่าตัวเลขนี้อาจดูเล็กน้อย แต่การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญในการมีชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้น และลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น มะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจ หลอดเลือด และอื่น ๆ
  
  
• กลุ่มทำสวนมีการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นประมาณ 42 นาทีต่อสัปดาห์ การศึกษายังแสดงให้เห็นว่าผู้เข้าร่วมทดสอบ มีการปฏิบัติตามข้อกำหนดการออกกำลังกาย ที่ทางศูนย์แนะนำประจำสัปดาห์ถึง 28%
  
  
• กลุ่มทำสวนมีระดับความเครียดและความวิตกกังวลลดลงเป็นอย่างมาก

แหล่งที่มา foodandwine.com