'เครือข่ายแรงงานฯ' จี้ 'บิ๊กตู่' เยียวยาปชช. ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน-เพิ่มเบี้ยคนชราเป็น 3 พัน
‘เครือข่ายแรงงานฯ’ จับมือ ‘องค์การนิสิตม.เกษตรฯ-อบจ.จุฬาฯ’ จี้ ‘บิ๊กตู่’ เยียวยาปชช. ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน-เพิ่มเบี้ยคนชราเป็น 3 พัน ด้าน ‘สมยศ’ จวก ‘รัฐบาล’ ปล้นเงินจากการขึ้นภาษี มาโปรยแจกผ่านนโยบาย ชี้ งบเยอะ แต่เอาไปลงที่กองทัพ ‘คณะราษฎร’ ประกาศเคลื่อนไหว ควบประเด็นเศรษฐกิจ-การเมือง ให้กว้างขึ้นต่อไปในปี 65
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 พฤศจิกายน ที่บริเวณประตู 3 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ธนพร วิจันทร์ เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย พร้อมด้วย องค์การบริหารองค์การนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์ และเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ยื่นหนังสือผ่านนายพันศักดิ์ เจริญ ผู้อำนวยการส่วนประสานมวลชนและองค์กรประชาชน ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเรียกร้องแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
น.ส.ธนพร กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 และการล็อกดาวทำให้เศรษฐกิจพัง ธุรกิจล้มละลายคนว่างาน และความยากจนขยายตัวมากขึ้น โดยทางกลุ่มจึงมีข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้คือ 1.ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 7% เป็น 5% เพื่อให้สินค้าอุปโภคบริโภคและภาคบริการและมีราคาถูกลง รวมทั้งยกเลิกภาษีสรรพสามิตน้ำมันเพื่อให้คนไทยใช้น้ำมันทุกชนิดราคาถูกลงอีกลิตรละ 6 บาท ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ 2.เพิ่มเงินยังชีพผู้สูงอายุและคนพิการทุกคน เป็นเดือนละ 3,000 บาท เพื่อสร้างหลักประกันการดำรงชีพของคนชราอายุ 60 ปีขึ้นไป และคนพิการกลุ่มเปราะบาง
3.ให้มีการลดค่าบำรุงการศึกษา (ค่าเทอม) และค่าใช้จ่ายการศึกษาของนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นประถม มัธยม และมหาวิทยาลัย 50% เป็นเวลา 3 ปี (2565-2567) เพื่อลดค่าใช้จ่ายของครัวเรือน พร้อมบรรจุครูอัตราจ้าง และพนักงานสัญญาจ้างในระบบการศึกษาให้เป็นข้าราชการประจำ 4.เพิ่มเงินอุดหนุนเด็กเล็กและเด็กแรกเกิด จนถึงอายุ 12 ปีทุกคน เดือนละ 1,200 บาท ถ้วนหน้า เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กเล็ก และ 5.ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสาธารณะครึ่งราคา เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยมาตรการทั้งหมดนี้จะนำมาซึ่งรัฐสวัสดิการและความมั่นคงทางสังคมให้กับประชาชนต่อไป
นายสมยศ กล่าวว่า รัฐบาลมีมาตรการแจกเงินมากมาย แต่แจกแล้วก็มาปล้นอีกครั้งหนึ่ง ผ่านการเก็บภาษีหลายอย่าง เช่น ภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ทั้งที่ควรเก็บภาษีบาป เช่น ภาษีบุหรี่ และภาษีเหล้า น้ำมัน 1 ลิตรที่แพงเป็น เพราะการปล้นเงินของประชาชน ทั้งที่ หากราคาน้ำมันลด ก็จะแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจได้ ปีที่แล้วรัฐบาลเก็บภาษีความหวาน มาปีนี้ก็มาเก็บภาษีความเค็ม ซึ่งทราบว่ากระทรวงการคลัง กำลังเตรียมเก็บภาษีความเปรี้ยว ภาษีความเผ็ด และภาษีความมัน เมื่อเก็บภาษีแพงก็จะเอาไปแจกเป็นบัตรสวัสดิการ ซึ่งไม่ได้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะทางรอดของเศรษฐกิจในตอนนี้คือการลดภาษี
นายสมยศ กล่าวต่อว่า ตนอยากจะสอนนายกฯ ที่ไม่ค่อยมีสติปัญญา ว่า การลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จะช่วยฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และอื่นๆ ด้วย โดยเราจะผลักดันทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ลงสู่ประชาชน ในสัปดาห์หน้าเราจะไปยื่นข้อเรียกร้องที่รัฐสภา และในสัปดาห์ถัดๆ ไป ก็จะมีการชุมนุมต่อ จากนี้ทางคณะราษฎร จะต่อสู้ในประเด็นด้านเศรษฐกิจและด้านการเมืองต่อไปในปีหน้าด้วย
ด้าน น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ตัวแทนกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กล่าวว่า รัฐบาลมีงบประมาณจำนวนมาก แต่ก็ไปให้กับกองทัพ แทนที่จะเอางบประมาณเหล่านั้นที่มาช่วยประชาชน ฉะนั้นเงิน 3,000 บาทต่อเดือน จึงไม่ได้มากเกินไป เราอยากให้รัฐบาลกลับไปคิดว่าสิ่งที่เราเรียกร้อง เป็นสิ่งที่ประชาชนควรได้รับหรือไม่