"ทหารอาสา" เทียบนโยบายพรรคภูมิใจไทย-ประชาชน ของใครดีกว่ากัน ก้าวแรกยุติเกณฑ์ทหาร ?

พรรคแรกที่พูดถึงนโยบาย “ทหารอาสา” อย่างจริงจัง คือ ภูมิใจไทย ในวันแถลงนโยบาย สโลแกน “พูดแล้วทำพลัส”  

ในหมวดนโยบายความมั่นคง อนุทิน ชาญวีรกูล นำเสนอทหารอาสา มาแทนที่ทหารเกณฑ์ โดยจะเปิดรับสมัครทหารรับใช้ชาติ 100,000 คน ในรูปแบบรับราชการ 4 ปี  

ไม่เพียงอาสามาเป็นทหาร แต่ยังได้เงินเดือน 12,000 บาท พร้อมโอกาสสอบรับราชการและเติบโตในเส้นทางอาชีพด้วย เรียกว่า เสริมความมั่นคงไทย สร้างอาชีพ และแก้ปัญหาทหารเกณฑ์ ที่เป็นประเด็นถกเถียงมายาวนานในสังคม

วันเดียวกับที่อนุทิน ประกาศนโยบายทหารอาสา ทางพรรคประชาชนก็ชูนโยบายยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร ด้วยทหารอาสาเช่นกัน 

พร้อมชี้ความคลุมเครือด้านนโยบายของภูมิใจไทยว่า ยังไม่ตอบคำถามว่า ทหารอาสา 100,000 คนต่อปี หรือ ปีละ 25,000 คน รวมเป็น 100,000 คนใน 4 ปีกันแน่

ดังนั้น พรรคประชาชนจึงเสนอเปิดรับทหารอาสาอย่างน้อย 30,000 อัตราต่อปี ให้เป็นทหารกองประจำการ 4 ปี และขยายเป็น 8 ปีได้ 

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและแคนดิเดตนายกฯ ให้สัมภาษณ์กับ TNN ว่า นโยบายทหารอาสานี้ จะเปลี่ยนกองทัพให้เป็นกองทัพที่ทันสมัย และลดการเกณฑ์ทหารได้ในที่สุด 

"เรามีนโยบายเปลี่ยนกองทัพให้เป็นกองทัพที่ทันสมัย กองทัพที่ป้องกันประเทศจริง ๆ ดูแลแนวชายแดนให้ปลอดภัย ยกระดับสวัสดิการทหารชั้นผู้น้อย การใช้พลทหารอาสาสมัคร จะลดการเกณฑ์ทหารได้ ถ้าเราเปิดโควตาทหารอาสามากขึ้น 3 หมื่นนายต่อปี ก็เปลี่ยนพลทหารมืออาชีพได้"

"การเกณฑ์ถูกบังคับทางกฎหมาย ถูกซ่อม ถูกซ้อม ถ้าเป็นทหารอาสา เขาเต็มใจ ถ้าถูกบังคับ เขาบอกเลิกได้ตลอดเวลา" ณัฐพงษ์ กล่าว

สิ่งที่ลงรายละเอียดมากขึ้น คือ พวกเขาจะได้ขึ้นเงินเดือนด้วยปีละ 3% เหมือนทำงานในบริษัท และเมื่อครบสัญญา 4 ปี ก็จะได้เงินช่วยเหลือ 120,020 บาท ซึ่งคำนวนจากเงินเดือนสุดท้าย คูณกับ ปีที่ทำงาน คูณกับ 2.5 เท่า

ที่น่าสนใจกว่านั้น ทหารอาสาจะเป็นระบบเหมือนทำงานออฟฟิศ เดินทางไปเช้าเย็นกลับได้ หลังพ้นระยะฝึกหนัก ไม่ต้องประจำค่ายตลอดเวลา

และเมื่อเป็นทหารอาชีพ ไม่ใช่ทหารภาคบังคับ พวกเขาก็จะไม่ต้องทนกับการถูกซ่อม ถูกซ้อม ถูกใช้ทำงานบ้าน ที่ไม่ตรงกับงานทหาร เพราะวันไหนที่เห็นว่าไม่สมควร พวกเขาก็ลาออก ออกจากกองทัพได้ทันที