รัฐบาลเมียนมาใช้กำลังกับผู้ชุมนุม เสียชีวิตแล้วกว่า 800 ราย

Myanmar: กองกำลังความมั่นคงเมียนมาใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงต่อเนื่อง มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 800 คน นับตั้งแต่เกิดการประท้วงต่อต้านการรัฐประหาร หลังกองทัพยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ขณะที่ สหประชาชาติ หรือ UN เลื่อนการลงมติเรื่องเมียนมา

สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง หรือ AAPP ในเมียนมาอ้างว่า นับจนถึงวันจันทร์ (17 พฤษภาคม) มีประชาชนเสียชีวิตแล้ว 802 คน แต่เชื่อว่ายอดแท้จริงสูงกว่านี้ พร้อมกับแจงรายละเอียดผู้เสียชีวิตในรัฐชิน ทางตะวันตกของเมียนมา และเขตต่าง ๆ ในนครย่างกุ้ง และเมืองมัณฑะเลย์ สมาคมอ้างด้วยว่า มีผู้ถูกควบคุมตัวอยู่ขณะนี้ 4,120 คน ในจำนวนนี้ 20 คนถูกตัดสินประหารชีวิต
ส่วนสถานการณ์ในเมืองมินดัต รัฐชินที่ทางการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อสัปดาห์ก่อน กำลังขาดแคลนอาหาร คาดว่ามีชาวเมืองหนีออกจากเมืองแล้ว 5-8 พันคน 

ทหารออกประจำการทั่วเมือง และปิดถนนสกัดไม่ให้กลับเข้ามา นักรบอาสาคนหนึ่งเผยว่า นักรบส่วนใหญ่หนีออกจากเมืองไปกบดานอยู่ในป่า หลังจากกองทัพเปิดฉากโจมตี ทั้งยิงปืนใหญ่ และใช้เฮลิคอปเตอร์ถล่มกองกำลังปกป้องดินแดนชิน ที่เพิ่งตั้งขึ้นไม่นาน

แหล่งข่าวทางนักการทูตเผยว่า สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือ UNGA เลื่อนการพิจารณาญัตติเรื่องเมียนมาในวันนี้ (18 พฤษภาคม) ตามเวลานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ เป็นการเลื่อนเพื่อหวังให้ได้เสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการลงมติเมื่อใด 

ญัตติดังกล่าวเรียกร้องให้ระงับการจัดส่ง จำหน่าย หรือลำเลียงอาวุธ และเครื่องกระสุนทั้งหมด ให้แก่กองทัพเมียนมาในทันที ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมายกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ยุติการใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วงอย่างสันติ และเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนที่แสดงออกไว้ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน 

หากญัตติไม่ได้รับความเห็นชอบด้วยเสียงเอกฉันท์ สมาชิกสมัชชา UN 193 ประเทศจะลงมติต่อไป ทั้งนี้ ญัตติของสมัชชาใหญ่ UN แม้ไม่มีผลผูกพัน แต่เป็นการแสดงนัยยะทางการเมืองอย่างสำคัญ