NRFดีลร้านค้าปลีกเพิ่ม ขยายโรงงานซอสเติบโต
NRF ยืนยันครึ่งปีหลังทุกธุรกิจเติบโต เดินหน้าดีลซื้อซูเปอร์มาร์เก็ต 1-2 แห่งต่อยอด มองโอกาสโตสูง ขยายโรงงานซอสใหม่รองรับ ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงต้นทุนลดดันมาร์จิ้น ส่วนผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช โรงงานใหม่เริ่มผลิตปีนี้ พร้อมดันลูกเข้าตลาดหุ้นสหรัฐ
นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในครึ่งปีหลัง 2566 จะดีต่อเนื่อง และจะทำให้รายได้ปี 2566 สูงกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 2,451 ล้านบาท
โดยธุรกิจ Plant-Based Food หรือผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช มีการเติบโตสม่ำเสมอ ยอดขายทำได้ราว 200 ล้านบาท ดังนั้นหากโรงงานใหม่ปีนี้เริ่มผลิต จะส่งผลดีต่อธุรกิจ ขณะที่กลุ่ม Ethnic Food หรือ เครื่องปรุงรส คาดว่าจะเห็นการเติบโตราว 8-10%
@ทุกธุรกิจทิศทางดี
ทั้งนี้ในการรับจ้างผลิต (OEM) คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาส 3/2566 จากภาวะของเศรษฐกิจที่กลับมาในทิศทางที่ดีขึ้น กฎระเบียบขอบังคับที่มีการผ่อนคลายมาตรการและเร่งปริมาณการส่งออก ทำให้เชื่อว่ารายได้จะดีกว่าปีที่ผ่านมา
ขณะที่ในส่วนของกลุ่มสินค้าแบรนด์ของบริษัท คาดว่ารายได้จะดีกว่าคาด และบริษัทจะมุ่งเน้นการจำหน่ายส่วนนี้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กลุ่มของซอส ได้รับออเดอร์เข้ามามากต่อเนื่อง เทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโตกว่า 50-60% และยังมีแนวโน้มที่ดี
ในส่วนของโรงงานซอสแห่งใหม่ อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงาน และจะมีการย้ายฐานการผลิตซอสในปัจจุบันไปรวมอยู่ที่โรงงานแห่งใหม่ เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตซอสที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยคาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นสูงสุด 2,250 ตันต่อเดือน หรือ 152,000 ลังต่อเดือน มูลค่าการลงทุนกว่า 113 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วๆ นี้
สำหรับธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ความต้องการยังดีต่อเนื่อง แม้ไตรมาส 2/2566 จะพลาดเป้าหมายไปเล็กน้อย แต่คาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่ม 100% ช่วงไตรมาส 3/2566 นี้ จากไตรมาส 2/2566 ที่ราว 80% อีกทั้งไลน์ผลิตแห่งที่ 2 จะแล้วเสร็จ ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 4 พันตันต่อเดือน
ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบราคามีแนวโน้มลดลงแล้วทำให้มาร์จิ้นดีขึ้น ด้านธุรกิจ e-Commerce มีมาร์จิ้นที่ดีขึ้นจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี อัตราการเติบโตอาจจะเห็นตัวเลขไม่สูงมากนัก สอดคล้องกับอุตสาหกรรม
@ปฏิบัติการดันลูกเข้า Nasdaq
นายแดนกล่าวว่า บริษัทมีแนวทางการนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดสหรัฐอเมริกา จึงได้ลงทุนในบริษัท Kairous Asia Limited ธุรกิจบริหารและจัดการ (Sponsor) ของบริษัท Kairous Acquisition Corp. Limited (KACL) ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อระดมทุนผ่านการ IPO บนตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq มีวัตถุประสงค์ในการควบรวมกับกิจการ อื่นๆ หรือที่เรียกว่า Special Purpose Acquisition Company (SPAC) ทั้งนี้คาดว่าจะเห็นการเข้าลงทุนของกลุ่ม Kairous อย่างน้อย 1 บริษัทปีนี้
โดย NRF จะได้รับประโยชน์ทั้งในด้านสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นของบริษัทในเครือจากเงินระดมทุน และยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ NRF ตามมูลค่าหุ้นบริษัทในกลุ่มที่เพิ่มขึ้นด้วย
@ดีลลงทุนซูเปอร์มาร์เก็ต
ส่วนการเข้าลงทุนใน Chuanglee Limited หรือ CNL และบริษัท Chuanglee Cash & Carry Limited หรือ CCC ซึ่งประกอบธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกอาหารเอเชียในสหราชอาณาจักร จะมีรายได้มากกว่า 6 ล้านบาทต่อเดือน
โดยบริษัทจะมีการเสริมศักยภาพร่วมกับ ผู้ค้าปลีกและผู้ค้าส่งรายอื่น จะมีการนำบิ๊กดาต้าเข้ามาใช้ถึงกลุ่มลูกค้า เพื่อทำการตลาดอย่างมีคุณภาพสูงสุด และต่อยอดต่อกลุ่มโรงงานต่อยอดรายได้อีก 5%
“ธุรกิจดังกล่าวปีนี้จะรับรู้รายได้เข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ และมีโอกาสที่จะเข้าลงทุนซูเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดด้วย มีโอกาสคาดจะเห็นความชัดเจนในครึ่งปีหลัง 1-2 ดีล”