ดัชนีหุ้นสหรัฐ-น้ำมันปรับตัวขึ้น หลังไบเดน-สี คุยวิกฤตยูเครน
ดัชนีหุ้นวอลสตรีทของสหรัฐอเมริกา ปรับตัวขึ้นกันทั้งหมดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ผลจากหุ้นเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นมาอีกครั้ง ขณะที่การหารือระหว่างโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ และ สี จิ้นผิง สิ้นสุดลงโดยไม่มีเรื่องน่าประหลาดใจ
รายงานระบุว่านักลงทุนกำลังจับตามองการค่อยๆปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันที่เป็นผลจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมาเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ นอกจากนั้นยังจับตามองแผนในการปรับตั้งอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป และการปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจลงด้วย
ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปรับตัวขึ้น 1.2 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวจึ้น 0.8 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่แนสแดค ปรับตัวขึ้นเช่นกันอีก 2 เปอร์เซ็นต์ ดัชนีหุ้นวอลสตรีทปรับตัวในรอบสัปดาห์สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020
สำหรับราคาน้ำมันที่เคยพุ่งไปถึงเกือบ 130 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ก่อน ผลจากสงครามของรัสเซียในยูเครน ปรับตัวลงมาต่ำกว่า 94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 16 มีรนาคม ก่อนจะกลับมาแกว่งตัวอยู่ที่เหนือ 110 ดอลลารร์ต่อบาร์เรลในเวลาต่อมา โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบเบรนต์ ปรับตัวขึ้น1.2 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่107.93 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล 1 วันหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นถึง 9 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นการพุ่งขึ้นในรอบ 1 วันที่สูงที่สุดนับตั้งแต่กลางปี 2020 ด้านน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปรับตัวขึ้น 1.7 เปอร์เซ็นต์ ไปอยู่ที่ 104.7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้านราคาทองคำกำลังอยู่ในเส้นทางราคาที่ร่วงลงในรอบสัปดาห์มากที่สุดในรอบ 4 เดือน โดยทองคำปรับตัวลงมา 1.2 เปอร์เซ็นต์ไปอยู๋ที่ 1,919.36 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้าสหรัฐปรับตัวลง 0.33 เปอร์เซ็นต์ไปอยู่ที่ 1,928.2 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์