รีเซต

MINT คัมแบ็กชูวัคซีน เงินสดแกร่ง3หมื่นล้าน

MINT คัมแบ็กชูวัคซีน เงินสดแกร่ง3หมื่นล้าน
ทันหุ้น
18 พฤศจิกายน 2563 ( 08:15 )
70
MINT คัมแบ็กชูวัคซีน เงินสดแกร่ง3หมื่นล้าน

ทันหุ้น - MINT ถึงเวลาฟื้นปี 2564 ระบุดีมานด์หวนกลับ เปิดโรงแรมแล้ว 84% วัคซีนช่วยหนุนเพิ่ม ย้ำการเงินแกร่งเงินสดในมือ 3 หมื่นล้านบาท แถมมีกระสุนตุน ขายสินทรัพย์ออก 1.0-1.5 หมื่นล้านบาท หากต้องการสภาพคล่อง ปรับแผนธุรกิจลดงบลงทุนปี 2564 เหลือ 4-5 พันล้านบาท โบรกเกอร์ แนะสอย เคาะเป้าหมาย 30.00 บาท


นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่านพัมนาเชิงกลยุทธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจของ MINT ในปี 2564 จะได้เห็นการฟื้นตัวจากปี 2563 หลังแนวโน้มการผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID 19) เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับทิศทาง (ดีมานด์) ในธุรกิจโรงแรมเริ่มฟื้นตัว จากข้อมูล ณ. สิ้นกันยายน 2563 ธุรกิจโรงแรมของ MINT ได้มีการกลับเปิดโรงแรมไปแล้วราว 84% , ธุรกิจอาหารสามารถกลับมาให้บริการได้แล้วมากกว่า 90%


@เงินสดเพียบ3หมื่นล.


ขณะที่ในแง่ฐานทางการเงินของบริษัทถือว่ายังมีความแข็งแกร่ง โดยปัจจุบันมีกระแสเงินสด (แคชโฟลว์) ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ประกอบกับยังมีใบสำคัญแสดงสิทธิ์ในการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท รุ่นที่ 7 (MINT-W7) ที่คาดจะสามารถระดมทุนเพิ่มเติมได้อีกราว 5 พันล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้าหรือราวปี 2566 ซึ่งน่าจะเพียงพอรองรับการบริหารงานของธุรกิจได้เป็นอย่างดี


นอกจากนี้ ทาง MINT อยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องการขายสินทรัพย์ในยุโรปบางส่วนออกไปเพิ่มเติม (ภายใต้เงื่อนไขหากมีความจำเป็นต้องการใช้เงินในอนาคต) โดยเบื้องต้นมีแนวทางขายสินทรัพย์อยู่ที่ 1.0-1.05 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่สินทรัพย์รวมทั้งหมดราว 1 แสนล้านบาท หวังนำเงินที่ได้รองรับการดำเนินธุรกิจในอนาคตต่อไป


@ หั่นงบลงทุนเหลือ 4-5 พันล.


บริษัทได้มีการปรับแผนการลงทุนในปี 2564 จากเดิมที่วางงบลงทุนไว้ราว 1 หมื่นล้านบาท เหลือเพียงราว 4-5 พันล้านบาท ซึ่งตัวเลขที่ปรับลดลงค่อนข้างมากนั้นส่วนใหญ่เป็นการปรับลดค่าใช้จ่ายในส่วนของธุรกิจโรงแรมและเงินลงทุนในการควบรวบกิจการ (M&A) เพื่อต้องการรักษาสภาพคล่องและกระแสเงินสดของธุรกิจให้มีประสิทธิ์ภาพ

ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ MINT แบ่งเป็น กลุ่มธุรกิจโรงแรมประมาณ 58%, ธุรกิจอาหารราว 35%, ธุรกิจไลฟ์สไตล์อีก 7% โดยหากจำแนกตัวเลขรายได้ตามช่องทางนั้นมาจากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศอยู่ที่ 64% ส่วนที่เหลือมาจากในไทย


“เงินลงทุนส่วนใหญ่ในปี 2565 จะใช้รองรับการปรับปรุงศักยภาพของธุรกิจเดิมทั้งในส่วนของอาหาร, โรงแรม และไลฟ์สไตล์ อีกทั้งปี 2565 เราได้มีการปรับลดลงงบลงทุนอีก 46% จากเดิมที่วางไว้ราว 1หมื่นล้านบาท ส่วนกลยุทธ์การบริหารนั้นคงเดินหน้าเร่งเปิดธุรกิจในส่วนต่างๆ ให้กลับมาเป็นตามปกติ ซึ่งคงทำควบคู่ไปกับการรักษาสภาพคล่องให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ตลอดจนหันมาทำตลาดธุรกิจโรงแรมในลักษณะการเข้าถึงลูกค้าโดยตรง (B2C) จากเดิมที่ทำตลาดผ่านหน่วยงานหรือองค์กร (B2C) เพื่อสนับสนุนรายได้ของธุรกิจอีกทางหนึ่ง”  นายชัยพัฒน์กล่าว


@ เป้า 30 บาท


ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น MINT ให้ราคาเป้าหมาย 30.00 บาท เนื่อจากฝ่ายวิเคราะห์คาดว่า MINT จะฟื้นตัวเต็มที่ (ระดับกำไรช่วงก่อน Covid 19) ในปี 2566


ส่วนปี 2564 ทางฝ่ายวิเคราะห์คาดว่า MINT จะมีแนวโน้มตัวเลขการขาดทุนลดลงเหลือราว 3 พันล้านบาท จากเดิมที่ฝ่ายวิเคราะห์ประมาณการไว้ว่าบริษัทจะขาดทุน 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมองว่าวัคซีนจะใช้ได้ในครึ่งปีหลัง 2564 แต่ยังมีปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญคือ ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศไทยซึ่งอาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของธุรกิจ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง