"ไฟเบอร์" เทรนด์สุขภาพใหม่ที่กำลังมาแรง ต่อจาก “โปรตีน”

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา “โปรตีน” คือพระเอกของวงการอาหารและสุขภาพ ตั้งแต่อาหารเสริม เครื่องดื่ม ไปจนถึงขนมขบเคี้ยว ทุกแบรนด์ต่างพยายามชูจุดขายว่าให้โปรตีนสูง ช่วยอิ่มนาน เสริมกล้ามเนื้อ และตอบโจทย์คนรักสุขภาพ แต่เทรนด์สุขภาพประจำปี 2026 กำลังขยับไปอีกขั้น เมื่อสารอาหารตัวใหม่กำลังถูกจับตามองอย่างจริงจัง นั่นคือ “ไฟเบอร์”

สัญญาณการเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนชัดจากคำพูดของ รามอน ลากวาร์ตา ซีอีโอของเป๊ปซี่โค ที่ระบุว่า “ไฟเบอร์จะเป็นโปรตีนตัวต่อไป” เขาบอกว่า ผู้บริโภคเริ่มตระหนักแล้วว่า ไฟเบอร์คือสารอาหารจำเป็น ที่คนส่วนใหญ่ทานได้ไม่เพียงพอในแต่ละวัน 

โดยเฉลี่ยผู้ใหญ่ควรได้รับไฟเบอร์ประมาณ 25–38 กรัมต่อวัน แต่คนส่วนใหญ่ได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของปริมาณที่แนะนำ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น ระบบขับถ่ายแปรปรวน ท้องผูกเรื้อรัง ลำไส้ไม่แข็งแรง จุลินทรีย์ดีลดลง หิวบ่อย ควบคุมน้ำหนักยาก น้ำตาลและไขมันในเลือดควบคุมยากขึ้น

เดิมที่ ไฟเบอร์มักถูกมองว่าเป็นเรื่องของผู้สูงอายุ และจำเป็นเฉพาะในคนที่มีปัญหาระบบขับถ่าย แต่ปัจจุบันไฟเบอร์ ถูกยกระดับเป็นหัวใจของการดูแลสุขภาพองค์รวม งานวิจัยจำนวนมากชี้ตรงกันว่า การบริโภคใยอาหารในปริมาณที่เหมาะสมช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานดีขึ้น ส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว และยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นมะเร็งที่คนรุ่นใหม่เป็นกันมากที่สุด

อีกแรงผลักสำคัญที่ทำให้ไฟเบอร์กลายเป็นดาวรุ่ง คือการเติบโตของ ยาลดน้ำหนักกลุ่ม GLP-1 อย่าง Ozempic และ Wegovy ยากลุ่มนี้ช่วยควบคุมความอยากอาหาร แต่ก็มักมาพร้อมผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ท้องผูก และไม่สบายท้อง ซึ่งแพทย์และผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าสามารถบรรเทาได้ด้วยการเพิ่มไฟเบอร์และโปรตีนในอาหาร ทำให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจ “คุณภาพของสารอาหาร” มากกว่าการนับแค่แคลอรี

ส่งผลให้อุตสาหกรรมอาหารจึงเริ่มขยับตาม เห็นได้ชัดจากการที่แบรนด์ใหญ่ๆ หันมาเติมไฟเบอร์ลงในผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว ไปจนถึงกาแฟพร้อมดื่ม ไม่ใช่แค่เพื่อสุขภาพ แต่ยังเป็นกลยุทธ์กระตุ้นยอดขายในยุคที่ผู้บริโภคเลือกซื้อมากขึ้น และคาดหวังว่าอาหารจะต้อง “ดีต่อร่างกาย” มากกว่าแค่อร่อย

ทิม สเปคเตอร์ นักโภชนาการ ยังชี้ประเด็นที่น่าสนใจว่า คนส่วนใหญ่ได้รับโปรตีนเพียงพอแล้ว เนื่องจากกระแสเครื่องดื่มโปรตีนในท้องตลาด แต่พวกเขากลับขาดไฟเบอร์โดยไม่รู้ตัว เขาแนะนำให้เน้นอาหารจากพืช เพราะช่วยให้การได้รับโปรตีนมาพร้อมกับใยอาหารตามธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น ถั่วลูกไก่ที่ให้ทั้งโปรตีนและไฟเบอร์ ขณะที่เนื้อสัตว์แม้จะโปรตีนสูง แต่แทบไม่มีไฟเบอร์เลย

ทั้งหมดนี้ทำให้ “ไฟเบอร์” ไม่ได้เป็นเพียงสารอาหารรองอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นเทรนด์สุขภาพหลัก ที่ต่อยอดจากยุคโปรตีน และสะท้อนการเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภค จากการกินเพื่ออิ่มหรือเสริมกล้ามเนื้อ ไปสู่การกินเพื่อดูแลสุขภาพระยะยาว ตั้งแต่ลำไส้ไปจนถึงคุณภาพชีวิตโดยรวม ในโลกของสุขภาพยุคใหม่ ไฟเบอร์อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กำลังถูกมอง “ใหม่” และมีบทบาทสำคัญกว่าที่เคยเป็นมา