3 โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นไทยภาคบ่าย แนะกลยุทธ์ลงทุน

#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส ระบุว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ 30 เม.ย. - 1 พ.ค. (เวลาไทย 2 พ.ค. 1.00 น.) ไม่น่ามี Surprise คาดคงดอกเบี้ย 5.5% แต่สิ่งที่ตลาดรอฟัง คือ ถ้อยแถลงต่อทิศทางดอกเบี้ยในระยะถัดไปของเฟด หลังตลาดฯ กังวลกับภาวะเศรษฐกิจชะลอ แต่เงินเฟ้อพุ่ง หรือ Stagflation ขณะที่ FED Watch Tool คาด FED จะลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ (เดิม 2 ครั้ง) โดยจะเริ่มปรับลงครั้งแรกเดือน ก.ย. ส่งผลให้ Bond Yield 2 ปีและ 10 ปี รวมทั้งดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับลง บ่ายดัชนีติดต้าน 1,373-1,375 จุด ขณะที่รายวันจะปิด Gap 1,380-1,395 จุด

• PMI ภาคการผลิตของจีน เดือน เม.ย. ขยายตัวมากสุดในรอบ 14 เดือน แตะระดับ 51.4 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือน มี.ค. ที่ระดับ 51.1 สูงกว่าที่ตลาดฯ คาดที่ 51 ซึ่งระดับที่สูงกว่า 50 บ่งชี้การขยายตัวของภาคการผลิต จากยอดสั่งซื้อเพื่อการส่งออกล็อตใหม่ที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง สอดรับกับ GDP ไตรมาส 1/67  ที่ขยายตัว 5.3% ส่งผลให้ตลาดฯ มีความหวังว่าเศรษฐกิจจีนจะกลับมาฟื้นตัวจากวิกฤตอสังหาฯ หุ้นเด่นรับ Theme เศรษฐกิจจีนฟื้นตัว(China Play) ได้แก่หุ้น CBG,  TKN,  ERW , NER และ STA

• ไทยสุ่มเสี่ยงต่อการถูกปรับลด GDP ต่อเนื่อง หลังตัวเลขการส่งออกหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน -10.90%YoY ล่าสุด สศค.ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2567 ลงเหลือ 2.4%(เดิม 2.8%) ขณะที่ ธปท. คาด GDP ปีนี้โต 2.6% และขยายตัว 3.0% ในปีหน้า

• สัปดาห์นี้ติดตาม พฤหัส : จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ เสาร์: CPIเดือน เม.ย. ของจีน 

หุ้นเทคนิคบ่ายนี้แนะนำหุ้น STEC และ PSL

บล.เอเอสแอล ระบุว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยนักลงทุนยังต้องรอการประชุมเฟด และตัวเลขเศรษฐกิจอื่น โดยเฉพาะตัวเลขภาคแรงงงานสัปดาห์นี้ ด้านปัจจัยในประเทศเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/67 อาจเห็นแรงซื้อขายเก็งกำไร ในหุ้นที่คาดผลประกอบการจะออกมาดี ด้านตัวเลขการส่งออกที่กระทรวงพาณิชย์ รายงานติดลลมากก่าคาดเมื่อวานนี้ ตลาดมองมีโอกาสที่จะฟื้นตัวจากค่าเงินบาทที่ยังคงอ่อนค่า 

ขณะที่วันนี้ สศอ. รายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) มี.ค.อยู่ที่ระดับ 104.06 ลดลง 5.13% YoY เนื่องจากการผลิตยานยนต์ลดลงเป็นเดือนที่ 8 และการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหดตัวในรอบ 6 เดือน 

กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,370 จุด หากผ่านยืนมั่นคง แนวต้านถัดไป 1,380/1,395 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,365/1,355 จุด ไม่ควรต่ำกว่า 

บล.โกลเบล็ก ระบุว่าดัชนีปรับตัวขึ้นตามดัชนีดาวโจนส์และความคาดหวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลหลังมีการปรับเปลี่ยน ครม. และผ่านร่างงบประมาณปี 67 มองภาคบ่ายมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 1,375 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,360 จุด 

ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นภาคเช้า ดัชนีเคลื่อนไหว sideway up จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีก ขนส่ง และกลุ่มธนาคาร นักลงทุนติดตามการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยประกาศ และการประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์ส่งผลให้ดัชนีพักเที่ยงปิดตลาดที่ 1,370.35 จุด บวก 8.38 จุด หรือ 0.62% มูลค่าการซื้อขาย 20,982 ล้านบาท