MAGURO โรดโชว์คึก สถาบัน-วีไอ สนใจพรึ่บ

#MAGURO #ทันหุ้น – MAGURO ปลื้มกระแสตอบรับโรดโชว์คึกคัก นักลงทุนสถาบัน-วีไอ ให้ความสนใจเพียบ พร้อมโชว์แกร่งกองทุนระดับโลกถือหุ้น คาดเสนอขายหุ้น IPO ได้ภายในไตรมาส 2/2567 เตรียมนำเงินระดมทุนขยายสาขา 11 สาขา

นายเอกฤกษ์  แสงเสรีดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO ผู้นำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นและเกาหลีระดับพรีเมียม-แมส เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดงานโรดโชว์เพื่อนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน ซึ่งได้รับการตอบรับค่อนข้างดี  ทั้งนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนกลุ่ม VIโดยบริษัทมีแผนนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในไตรมาส 2/2567 นี้ และคาดว่าขั้นตอนการเข้าระดมทุนจะแล้วเสร็จทั้งหมด ภายในเดือนมิถุนายน 2567

** รุกขยายสาขา

สำหรับวัตถุประสงค์ในการใช้เงินที่ได้รับจากการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก(IPO) บริษัทจะใช้เพื่อขยายสาขาในกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล โลเคชันใหม่ทั้งในเมือง และ ย่านชานเมืองสำคัญที่มีกำลังซื้อสูง โดยใช้ศักยภาพของแบรนด์ของบริษัท ในการดึงดูดลูกค้าด้วยชื่อเสียงของแบรนด์เอง ซึ่งช่วยการลดการพึ่งพาจำนวนลูกค้าจากห้างสรรพสินค้าใหญ่ และเพิ่มทางเลือกของที่ตั้งในการขยายสาขา

โดยในปี 2567 มีแผนเปิดสาขาใหม่ 11 สาขา ใช้งบลงทุนในการขยายสาขาประมาณ 13-25 ล้านบาทต่อสาขา

นอกจากนี้จะใช้ในการปรับปรุงสาขาเดิม และสร้างครัวกลางเพื่อรองรับการเติบโตของจำนวนสาขาในอนาคต ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนตามการเติบโตของบริษัท

สำหรับกองทุนระดับโลกอย่าง "กองทุนลอมบาร์ด เอเชีย" ได้เข้าลงทุนกับบริษัทในช่วงก่อนหน้านี้ โดยเข้าถือหุ้นผ่านชื่อ Holistic Impact PTE limited โดยมีโครงสร้างผู้ถือหุ้นก่อน IPO ที่ 28.34% และคาดว่าหลัง IPO สัดส่วนการถือหุ้นจะอยู่ที่ 13.52% บริษัทมองว่าการที่่มีกองทุนติดต่อเข้ามา เนื่องจากเห็นศักยภาพการเติบโตของบริษัท เเม้จะเผชิญกับโรคระบาดโควิด-19 เเต่บริษัทสามารถทำผลงานให้สามารถเป็นบวกได้

***สาขาทั้งหมด 27 แห่ง

ปัจจุบันบริษัทมีร้านอาหารภายในเครือทั้งหมด 3 แบรนด์ ได้แก่ 

1. ร้านซูชิและอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียม “MAGURO” (มากุโระ) จำนวน 14 สาขา

 2. ร้านปิ้งย่างเกาหลีพรีเมียม “SSAMTHING TOGETHER” (ซัมติง ทูเก็ทเตอร์) จำนวน 6 สาขา และ

 3. ร้านอาหารชาบูและสุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่นแบบต้นตำหรับ (Authentic Japanese Sukiyaki and Shabu Shabu) “HITORI SHABU” (ฮิโตริ ชาบู) จำนวน 6 สาขา 

ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัท มีจำนวนสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 3 แบรนด์ จำนวน 27 สาขา

นางสาวจิรยง  อนุมานราชธน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวต่อว่า ในธุรกิจร้านอาหารที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง MAGURO เป็น 1ในแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมาตลอด ด้วยคุณภาพของอาหารระดับพรีเมียมในราคาที่คุ้มค่า ทำให้มีฐานลูกค้าที่มั่นคงและสามารถขยายฐานลูกค้า ไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง เเละยังมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง ในปี 2566 มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง 45.17%และปลอดหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย และมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) สูงถึง 26.52% ซึ่งการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยให้บริษัทขยายฐานทุน สามารถเติบโตได้มากยิ่งขึ้น